ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดในวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า เมื่อบีโอเจประกาศใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเมื่อเดือนที่แล้วนั้น คณะกรรมการบริหารบางคนของบีโอเจได้แสดงความกังวลว่าการแข็งค่าของเงินเยนอาจส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ
เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การประชุมบีโอเจเมื่อวันที่ 9-10 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บีโอเจตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการจัดประชุมฉุกเฉินในวันที่ 30 ส.ค. เพื่อพิจารณาว่าควรจะตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ในการประชุมครั้งนั้น บีโอเจยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องการใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงินเพิ่ม ขณะที่คณะกรรมการบีโอเจเห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
รายงานการประชุมระบุว่า ในระหว่างการหารือกันนั้น คณะกรรมการบีโอเจบางคนกล่าวว่า การแข็งค่าของเงินเยนอาจทำให้บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานการลงทุนไปยังต่างประเทศเร็วขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการส่วนใหญ่คาดว่า มีความเป็นไปได้ที่การแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกและผลกำไรของบริษัทเอกชน พร้อมกับเรียกร้องให้จับตาการแข็งค่าของเงินเยน และการร่วงลงของราคาหุ้นที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบางคนของบีโอเจมองว่า การแข็งค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมากน้อยเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่หลากหลาย อาทิ ความคืบหน้าของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทางบีโอเจควรประเมินผลกระทบด้วยการพิจารณาถึงปัจจัยเหล่านี้อย่างสมดุล สำนักข่าวเกียวโดรายงาน