น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนของปี 53 (ม.ค.-ก.ค.) สถิติการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีมูลค่าการรวม 453,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% เป็นการส่งออก 283,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% และนำเข้า 169,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% โดยไทยได้ดุลการค้า 114,463 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดการค้าชายแดนช่วง 7 เดือนขยายตัวมาจากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ที่มีการลดภาษีนำเข้าสินค้ากว่า 8,300 รายการเป็น 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 ประกอบกับ ประเทศเพื่อนบ้านได้ฟื้นตัวจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้มีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น
"การส่งออกตามแนวชายแดนที่เพิ่มขึ้น เป็นการส่งออกไปมาเลเซียมากที่สุด โดยมีมูลค่าส่งออก 184,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.7% รองลงมา ได้แก่ ลาว ส่งออก 37,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9% พม่า ส่งออก 31,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% และกัมพูชา ส่งออก 30,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% โดยสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำมันดีเซล" น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
สำหรับสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สื่อบันทึกข้อมูล เทปและจานแม่เหล็กและโลหะทองแดง ส่วนดุลการค้า ไทยได้ดุลการค้ากับมาเลเซีย 77,804 ล้านบาท ลาว 24,339 ล้านบาท กัมพูชา 29,009 ล้านบาท แต่ขาดดุลการค้ากับพม่า 16,689 ล้านบาท เพราะนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่าเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงาน มหกรรมการค้าชายแดนไทย-ลาว ครั้ง 1 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการค้าชายแดน บริเวณลานพญานาค จ.หนองคาย วันที่ 10-14 ก.ย.นี้ โดยนำสินค้าคุณภาพส่งออก สินค้าจากลาว สินค้าอุปโภค บริโภค รวมทั้งสินค้าธงฟ้า เช่น น้ำตาลทราย ไข่ไก่ น้ำมันพืช มาจำหน่ายในราคาพิเศษ นอกจากนี้ ยังจัดประชุมผู้แทนเพื่อทำหน้าที่วางแผนจัดทำกลยุทธ์ติดตามสถานการณ์รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 50 ล้านบาท