World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 10 กันยายน 2553

ข่าวต่างประเทศ Friday September 10, 2010 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ก.ย.ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 359.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ก.ย. ร่วงลง 27,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 451,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 2,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทเอกชนในสหรัฐไม่ได้เลย์ออฟพนักงานจำนวนมากตามที่มีการประเมินไว้ในเบื้องต้น แม้ภาวะเศรษฐกิจยังคงซบเซาก็ตาม

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.ของสหรัฐ ลดลง 14% มาอยู่ที่ระดับ 4.28 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่งอจากยอดนำเข้าสินค้าร่วงลง ในขณะที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ขณะที่นักวิเคราห์คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าที่ปรับตัวลดลงอาจหนุนเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้ดีในไตรมาส 3 ปีนี้

-- รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มการประเมินอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาสที่ 2 ครั้งล่าสุด โดยระบุว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 2 ขยายตัว 1.5% เพิ่มขึ้นจากการประเมินในเดือนก่อนที่ขยายตัวเพียง 0.4%

-- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 9.15 แสนล้านเยนตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักคือสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน และป้องกันเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ให้เผชิญกับภาวะขาลง ด้วยการเพิ่มการจ้างงาน 200,000 ตำแหน่ง และสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

-- สำนักงานศุลกากรของจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนทะยานขึ้น 34.4% ต่อปี ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 35.2% ต่อปี

-- รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียขยายตัว 13.8% ในเดือนก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นสถิติที่ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดในวันนี้ (10 ก.ย.) ว่า เมื่อบีโอเจประกาศใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินเมื่อเดือนที่แล้วนั้น คณะกรรมการบริหารบางคนของบีโอเจได้แสดงความกังวลว่าการแข็งค่าของเงินเยนอาจส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ

-- นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ เปิดเผยว่า กรณีที่อินคิวเบเตอร์ แบงค์ ออฟ เจแปน ยื่นล้มละลาย ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการธนาคารของญี่ปุ่น ด้านโชสะบุโร จีมี รัฐมนตรีกระทรวงบริการการเงินของญี่ปุ่น กล่าวว่า การล้มละลายของธนาคารแห่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ เนื่องจากระบบการดำเนินงานที่แตกต่างไปจากแบงค์อื่นๆ กล่าวคือ แบงค์จะรับฝากเงินฝากประจำแบบ Time Deposit และบริการดังกล่าวก็ไม่ได้พ่วงเข้ากับระบบบริการด้านการเงินทั่วประเทศระหว่างธนาคารพาณิชย์

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมยังคงทรงตัวในระดับเท่าเดิม เมื่อเทียบกับปีก่อน และเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะลดลง 0.2% ต่อปี

-- รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในรายงานว่า การที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหลักอื่นๆอาจจะเป็นปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจของประเทศมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับปัจจัยจากแนวโน้มเศรษฐกิจนานาประเทศที่อาจจะชะลอตัวลง ราคาหุ้นที่มีความผันผวน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้คงระดับการประเมินปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ