ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขานรับมติของคณะกรรมการบาเซิลที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการดำรงเงินกองทุนคุณภาพสูงสุด หรือกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1 capital) โดยเฟดกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างสถานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ให้แข็งแกร่งขึ้น และจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับธนาคารด้วย
"เฟด และคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคารของสหรัฐ สนับสนุนความพยายามของคณะกรรมการบาเซิลในการเพิ่มคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ การกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 จะช่วยให้มาตรฐานด้านสภาพคล่องของธนาคารมีความแข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อตกลงในที่ประชุมคณะกรรมการบาเซิลจะช่วยเพิ่มมาตรฐานด้านความร่วมมือระหว่างธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกด้วย" เฟดกล่าวในแถลงการณ์
ที่ประชุมคณะกรรมการบาเซิลด้านการกำกับดูแลภาคการธนาคาร ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีมติให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการดำรงเงินกองทุนคุณภาพสูงสุด หรือที่เรียกว่ากองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1 capital) ตามเกณฑ์บาเซิล 3 (Basel III) เป็น 7% ของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่กำหนดไว้เพียง 2% โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์การเงินในอนาคต
คณะกรรมการบาเซิลเชื่อมั่นว่า เกณฑ์บาเซิล 3 จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับธนาคารพาณิชย์ และสร้างความมั่นใจว่าธนาคารจะมีเงินทุนเพียงพอในการต้านทานภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยไม่ต้องนำเงินภาษีราษฎรมาใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านการเงินขององค์กร
กองทุนขั้นที่ 1 ประกอบไปด้วยกำไรจากหุ้นหรือกำไรสะสมที่มีมูลอย่างน้อย 4.5% ของทรัพย์สินโดยรวม ซึ่งนอกเหนือจากการดำรงกองทุนขั้นที่ 1 ให้ได้ 7% ของสินทรัพย์เสี่ยงแล้ว คณะกรรมการบาเซิลยังกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มเงินทุนกันชน (capital buffer) เป็น 2.5% ของสินทรัพย์ เพื่อให้ธนาคารสามารถต้านทานภาวะวิกฤตในอนาคตได้ พร้อมระบุว่า หากธนาคารพาณิชย์รายใดไม่สามารถเพิ่มเงินในกองทุนกันชนได้ตามกำหนด ก็จะต้องระงับการจ่ายเงินปันผล สำนักข่าวซินหัวรายงาน