ยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลงเหลือเพียง 2.003 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับยอดเกินดุล 2.873 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากอัตราการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามความต้องการภายในประเทศที่สูงขึ้น
กรมศุลกากรของจีน เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกในเดือนสิงหาคมของจีนเพิ่มขึ้น 34.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงจากระดับ 38.1% ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ยอดการนำเข้าพุ่งขึ้น 35.2% เทียบกับสถิติการขยายตัวเพียง 22.7% ในเดือนกรกฎาคม
นายจาง ฮันหลิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยธุรกิจนานาชาติในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ถึงแม้ว่าการส่งออกจะมีอัตราเติบโตที่ชะลอตัวลงแต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ในขณะที่ความต้องการวัตถุดิบสูงขึ้น เนื่องจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างรวดเร็วของจีน ส่งผลให้การนำเข้าเติบโตรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
เมื่อมีการเปรียบเทียบเป็นรายเดือน การนำเข้าของจีนมีอัตราการขยายตัว 2.1% ในเดือนสิงหาคม ในขณะที่การส่งออกลดลง 4.3%
ด้านนายจ้าว จิ๋นปิง นักวิจัยจากศูนย์พัฒนาการวิจัยของคณะมนตรีของจีน กล่าวว่า ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นยังทำให้การนำเข้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ การนำเข้าสินแร่เหล็กในช่วง 8 เดือนแรกของจีนมีปริมาณเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบปีต่อปี แตะ 410 ล้านตัน ในขณะที่ราคานำเข้าโดยเฉลี่ยพุ่งขึ้น 55.1% เป็น 118.6 ดอลลาร์/ตัน ส่วนการนำเข้าน้ำมันกลั่นลดลง 8.5% มาอยู่ที่ระดับ 23.88 ล้านตันในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 30.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ด้านการส่งออกของจีนมีอัตราการเติบโตที่ลดลงจาก 48.5% ในเดือนพฤษภาคม เป็น 43.9% ในเดือนมิถุนายน และ 38.1% ในเดือนกรกฎาคม
นายซัว เซียวเล่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไชน่า แกแล็กซี่ ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกจะยังคงมีความไม่แน่นอนไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ของปี เช่นเดียวกับทิศทางการของสถานการณ์การจ้างงานในสหรัฐ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และเทศกาลการซื้อสินค้าในช่วงคริสต์มาส
อย่างไรก็ตาม นายซาง ฮันหลิน คาดว่า การส่งออกจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ "การค้าขายกับต่างประเทศส่วนใหญ่ของจีนจะเป็นการค้าแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มขึ้นและส่งผลให้การส่งออกสินค้าสำเร็จรูปมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" เขากล่าว
ทั้งนี้ กรมศุลกากรของจีน เปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนในช่วง 8 เดือนแรกของปีมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.88 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ยอดเกินดุลการค้าหดตัว 14.6% เหลือเพียง 1.039 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนปริมาณการค้าจากเดือนมกราคม-สิงหาคมมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน แตะ 7.3049 แสนล้านดอลลาร์ คิดเป็น 38.9% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของประเทศ
นอกจากนี้ การนำเข้าสินแร่เหล็ก น้ำมันดิบ ยางดิบ และท่อนซุง ของจีนยังเพิ่มขึ้นมากว่า 50% ในช่วงดังกล่าว
การฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ของจีนยังทำให้การนำเข้าชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นถึง 140.9% จากปีก่อนสู่ระดับ 520,922 ชิ้น
รายงานของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนระบุว่า การส่งมอบรถยนต์ของผู้ผลิตไปยังดีลเลอร์ในเดือนสิงหาคมขยายตัว 6.29% ต่อเดือน แตะ 1.322 ล้านคัน เทียบกับการขยายตัวที่ลดลงในเดือนกรกฎาคม
สำหรับการค้าในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมระหว่างจีนและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีน มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 36.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 3.0581 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่การค้ากับสหรัฐมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 32% แตะ 2.4261 แสนล้านดอลลาร์ และการค้ากับญี่ปุ่นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 34.8% สู่ระดับ 1.8689 แสนล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน