BOI ไฟเขียวหนุนเปิดกิจการ Data Center-ปรับเงื่อนไขกิจการคัดคุณภาพข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 13, 2010 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้พิจารณา และมีมติเห็นชอบการปรับปรุง เพิ่มเติมนโยบายต่างๆ ของบีโอไอ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ประกอบด้วย เห็นชอบให้มีการเปิดส่งเสริมกิจการเขต Data Center ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนพัฒนาพื้นที่สำหรับกิจการในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ได้มาตรฐานระดับสูง เช่น เป็นศูนย์กลางรองรับเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เครื่องประมวลผลขนาดใหญ่ เครื่องบันทึกข้อมูล เครือข่ายสัญญาณ อุปกรณ์เครือข่าย รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ

โดยกิจการดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์สำรองให้กับภาคธุรกิจ ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติหรืออุบัติเหตุ เช่น ไฟฟ้าดับ ไวรัสคอมพิวเตอร์ รวมถึงยังมีส่วนสำคัญทำให้ไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจสำนักงานภูมิภาค และศูนย์กลางธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคต ทั้งนี้กิจการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนจะจัดอยู่ในกลุ่มกิจการที่มีความสำคัญต่อประเทศเป็นพิเศษ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี โดยจำกัดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขตไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตใด

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการปรับปรุงนโยบายส่งเสริมการลงทุนกิจการคัดคุณภาพ บรรจุ เก็บรักษา พืช ผัก ผลไม้ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยหากเป็นการขอรับส่งเสริมการลงทุนในกิจการคัดคุณภาพข้าวครบวงจร ให้รวมถึงโครงการที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการอบพืช ไซโล และกระบวนการสีข้าวได้ เพื่อให้สามารถดำเนินการอย่างครบวงจรมากขึ้น รวมถึงสามารถควบคุมคุณภาพข้าว และตรวจสอบย้อนกลับ ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวของประเทศ วางรูปแบบส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณายุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ โดยเห็นชอบให้มีการศึกษาข้อมูลเชิงลึกนำร่องในอุตสาหกรรม 5 สาขา ได้แก่ สาขาเกษตร สิ่งทอและเสื้อผ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ ท่องเที่ยว และบริการกิจการก่อสร้าง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม เพื่อจัดทำข้อมูลนำมาใช้ประโยชน์ในแผนส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศต่อไป โดยมีประเทศเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้คนไทยไปลงทุน ประกอบด้วย ประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง จีน เอเชียใต้ เอเชียกลาง และกลุ่มทวีปอาฟริกา เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่เอื้อประโยชน์ต่อการผลิตจำนวนมาก

“ที่ผ่านมาการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ ยังมีปัญหาสำคัญในด้านของข้อมูลเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับโอกาส และลู่ทางการลงทุนที่จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน จึงทำให้มูลค่าการลงทุนของไทยในต่างประเทศจนถึงปี 2552 มีอยู่เพียง 16,303 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น ร้อยละ 6.2 ของจีดีพี ซึ่งหลังจากรัฐบาลได้จัดตั้งสำนักส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศขึ้นภายใต้การดูแลของบีโอไอ รวมถึงมีข้อมูลเชิงลึกที่จะศึกษานี้จึงจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักลงทุนสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจเข้าไปลงทุนต่อไป" นายชัยวุฒิ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ