นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นว่าจีนจะรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง
เหวินกล่าวในที่ประชุม World Economic Forum’s Summer Davos ที่จัดขึ้นในเขตเทศบาลนครเทียนจินว่า "เศรษฐกิจจีนขณะนี้ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว การพัฒนาเชิงโครงสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป การจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงพื้นฐานราคาที่มีเสถียรภาพ"
ขณะเดียวกัน ดัชนีตลาดหุ้นจีนขยายตัวได้สูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่จีนยกเลิกการผูกติดค่าเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ในเดือนก.ค.2548 เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค.ที่ดีเกินคาด โดยเศรษฐกิจจีนเติบโตได้ถึง 11.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกต่อไป
การประเมินเศรษฐกิจของนายเหวินมีขึ้นหลังจากที่เขากล่าวเมื่อสิ้นเดือนมิ.ย.ว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ชะลอตัวลงแตะที่ 10.3% จากระดับ 11.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่รัฐบาลเพิ่มสัดส่วนกันสำรองเงินกู้จำนองและงดออกเงินกู้สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 3 เพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย
รัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งควบคุมราคาบ้านให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยจีนจะผลักดันแนวทางการประหยัดพลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงเร่งปฏิรูปแนวทางการกระจายรายได้ในประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้กว่า 90 เท่าเมื่อเทียบกับสมัยที่เติ้ง เสี่ยวผิง ริเริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งได้ดึงดูดให้บริษัทต่างชาติหลายแห่งเข้ามาดำเนินธุรกิจและสร้างความทันสมัยในประเทศจีน ขณะที่ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของจีนก็ขยายตัวแซงหน้าญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 และก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขยายใหญ่อันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ เหวินให้คำมั่นว่าจะสร้างบรรยากาศด้านการดำเนินธุรกิจที่เปิดกว้างและเป็นธรรมสำหรับกลุ่มบริษัทต่างชาติในประเทศจีน พร้อมทั้งชี้ว่าสินค้าทุกชิ้นที่ผลิตในจีนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน