ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ 3 แห่งของจีน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์ล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (SHFF) ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เจิ้งโจว (ZCE) และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียน (DCE) ประกาศปรับเพดานมาร์จิ้นการซื้อขายและเพดานการซื้อขายต่อวันก่อนถึงวัดหยุดช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์
-- แหล่งข่าวจากสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) ระบุว่า ผลผลิตเหล็กดิบของจีนปรับตัวลดลง 1.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การผลิตที่ปรับตัวลดลง และโรงถลุงเหล็กหลายแห่งเริ่มปรับขึ้นราคาเหล็ก โดยบริษัทเหอเป่ย ไอออน แอนด์ สตีล โค ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กรายใหญ่ของจีนปรับขึ้นราคาเหล็กรีดร้อนหน้าโรงงาน 200 หยวน/ตัน และปรับขึ้นราคาเหล็กเส้นหน้าโรงงาน 180 หยวน/ตัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัท ชากัง กรุ๊ป ได้ปรับขึ้นราคาเหล็กท่อนและเหล็กเส้นขึ้นอีก 200 - 300 หยวน/ตัน
-- นายเติ่ง จีหลิน ประธานสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CUSA) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์กวางโจว เดลี่ ว่า ระบบกำหนดราคาสินแร่เหล็กรายไตรมาสส่งผลกระทบต่อการผลิตเหล็ก โดยเขาระบุว่า บริษัทเหล็กของจีนได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นทรัพยากรแร่ในต่างประเทศเพื่อให้บริษัทมีบทบาทในการเจรจาต่อรองราคาสินแร่เหล็กมากขึ้น
-- รายงานจากหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตี้ นิวส์ ระบุว่า ทางการจีนได้สั่งการให้บริษัท Chengde Iron and Steel ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเหอเป่ย ไอออน แอนด์ สตีล ลดปริมาณการผลิต โดยให้มีการควบคุมผลผลิตเหล็กดิบให้อยู่ในระดับ 580,000 ตันตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. - 31 ธ.ค.ของปีนี้
เจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นในมณฑลเหอเป่ยกล่าวว่า ทางหน่วยงานจะยังคงจัดเก็บค่าธรรมเนียมค่าไฟและค่าน้ำในอัตราที่แตกต่างกันในภาคอุตสาหกรรม 8 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยภาคอุตสาหกรรมอลูมิเนียม electrolytic, เฟอร์โรอัลลอย, แคลเซียม คาร์ไบด์, caustic soda, ซีเมนต์, เหล็กกล้า, yellow phosphorus, และโรงหลอมสังกะสี สำนักข่าวซินหัวรายงาน