นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เผยการจัดเก็บรายได้สุทธิรัฐบาลในเดือน ส.ค.53 ยังคงสูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจัดเก็บได้ 2.4 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายกว่า 46,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรก(ต.ค.52-ส.ค.53)ของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายถึง 25.3% หรือมีมูลค่า 3.2 แสนล้านบาท
"ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลที่สูงกว่าเป้าหมาย และภาวะเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่า การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2553 จะสูงกว่าประมาณการไม่ต่ำกว่า 3.3 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน" นายสาธิต กล่าว
โดยเดือน ส.ค.53 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 244,875 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 46,441 ล้านบาท หรือ 23.4% แยกเป็น ภาษีเงินได้นิติบุคคล 153,571 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 30,300 ล้านบาท หรือ 24.6% เนื่องจากมีการยื่นชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล(ภ.ง.ด.51) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลจากผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2553 ปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ
นอกจากนี้การบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ และอากรขาเข้าได้สูงกว่าประมาณการเป็นจำนวนมาก สำหรับรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 9,029 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,181 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ.ทีโอที นำส่งเงินปันผลซึ่งเดิมจะนำส่งในเดือน พ.ค.53 จำนวน 6,015 ล้านบาท
ทั้งนี้ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,601,814 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 323,690 ล้านบาท หรือ 25.3% โดยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายถึง 147,877 106,523 และ 21,565 ล้านบาท หรือ 14.3%, 39.9% และ 31.9% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีรายได้พิเศษจากเงินยึดทรัพย์และเงินส่งคืนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการจำนวน 49,016 และ 8,135 ล้านบาท ตามลำดับ