นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การติดตามทวงถามหนี้อย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง รายงานว่าปัจจุบันกฎหมายที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมเฉพาะสถาบันการเงิน แต่การติดตามทวงหนี้ของสถาบันการเงินในขณะนี้ส่วนใหญ่จะใช้บริการจาก Outsources ซึ่งถือเป็นบุคคลนอกเหนือกฎหมาย ธปท.
ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญ เพื่อรวบรวมผู้ทำหน้าที่ทวงหนี้ทั้งหมดให้อยุ่ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ทั้งหมด โดยจะต้องมีการจดทะเบียนกิจการทวงหนี้ มีข้อกำหนดและข้อห้ามต่างๆ เช่น กำหนดช่วงเวลาในการติดต่อทั้งทางโทรศัพท์ โทรสาร บุคคล ห้ามคุกคามข่มขู่หรือใช้ความรุนแรง ใช้ภาษาที่ดูหมิ่น ถากถาง เสียดสี และห้ามเปิดเผยตัวเลขหนี้
นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวยังห้ามมิให้ผู้ติดตามทวงหนี้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของหน่วยงานภาครัฐ พร้อมกันนั้นได้กำหนดโทษทางอาญาไว้ 3 ระดับ คือ ปรับ 1 แสนบาท, จำคุก 1 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ จำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมการติดตามหนี้สิน มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และ ปลัดกระทรวงพาณิชย ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ