ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งกว่า 3% เทียบเยน หลังบีโอเจแทรกแซงตลาด FX

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 16, 2010 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 3% เมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนวิตกกังวลว่าผลกระทบของการเข้าแทรกแซงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อค่าเงินเยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 3.05% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.580 เยน จากระดับของวันอังคาร (14 ก.ย.) ที่ 83.050 เยน และดีดตัวขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0025 ฟรังค์ จากระดับ 0.9958 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3011 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2995 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5624 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5535 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9390 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนลง 0.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7313 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7336 ดอลลาร์สหรัฐ

เงินเยนร่วงลงอย่างหนักหลังจากบีโอเจตัดสินใจใช้เงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา ด้วยการเทขายเงินเยนและทุ่มซื้อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี โดยมีเป้าหมายหลักคือการฉุดรั้งเงินเยนให้อ่อนค่าลง หลังจากการแข็งค่าของเงินเยนได้สร้างความวิตกกังวลในวงกว้างว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมและทำให้ผลกำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นหดตัวลงด้วย

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่า เงินเยนยังคงมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอีก ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากวิตกกังวลว่าผลกระทบของการเข้าแทรกแซงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อค่าเงินเยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 0.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นเกินความคาดหมาย และหากไม่นับรวมยอดการผลิตรถยนต์พบว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.4%

ข้อมูลของเฟดระบุว่า ผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่พุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่ผลผลิตด้านสาธารณูปโภคลดลง 1.5% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74.7% สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 4.7%

ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานในช่วง 3 เดือนจนถึงก.ค. ลดลง 8,000 คน มาอยู่ที่ 2.47 ล้านคน ส่งผลให้อัตราว่างงานโดยรวมของอังกฤษ ยังทรงตัวอยู่ที่ 7.8% นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และเฟดจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนก.ย. ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ