World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 16 กันยายน 2553

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 16, 2010 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 0.2% ในเดือนส.ค.ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับตัวขึ้นเกินความคาดหมาย และหากไม่นับรวมยอดการผลิตรถยนต์พบว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ขยายตัว 0.4%

-- ธนาคารกลางฮ่องกง เปิดเผยว่า ยอดการให้บริการบัตรเครดิตในไตรมาส 2 ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 1.9% แตะระดับ 15 ล้านใบ เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และหากเปรียบเทียบเป็นรายปีจะเพิ่มขึ้นถึง 4.8%

-- นายแซนเดอร์ เลวิน ประธานคณะกรรมาธิการการเงินและการจัดเก็บภาษีแห่งสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ กล่าวในพิธีเปิดการอภิปรายว่าด้วยเรื่องนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนว่า "การที่รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนั้น ถือเป็นการสร้างความผันผวนในตลาด และสหรัฐจะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด"

-- นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวย้ำในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการเทขายสกุลเงินเยน และรัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนต่อไป

-- สำนักข่าวยอนฮัพรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า นายคิม ฮวาง-ซิค ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบบัญชีของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเกาหลีใต้

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าในเดือนส.ค.เมื่อปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ลดลง 1.215 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.140 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มาอยู่ที่ระดับ 1.7584 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.6499 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

-- หน่วยงานรัฐบาล 4 แห่งของจีน ได้ออกหนังสือเวียนเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปรามและลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารอย่างเข้มงวด

-- อินเตอร์แบรนด์ คอร์ป บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติอเมริกัน เปิดเผยว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ครองอันดับ 11 จากการจัดอันดับแบรนด์ระดับโลกในปีนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547 ที่โตโยต้าไม่ติด 1 ใน 10

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียเผย ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจสหรัฐอีกต่อไปแล้ว แต่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนแทน โดยระบุตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจออสเตรเลียได้รับอานิสงส์จากประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าทรัพยากรธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

-- ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ repo rate อีก 0.25% และขึ้นอัตราดอกเบี้ย reverse repo rate อีก 0.50%

-- หนังสือพิมพ์เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า การแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นนั้นมีเป้าหมายทางการเมือง เพื่อที่จะสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น หรือดีพีเจ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

-- ทางการจีนชี้อานิสงส์จากใช้มาตรการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.954 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ช่วยหนุนให้จีนมียอดการจ้างงานราว 22 ล้านตำแหน่ง นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก

-- โตชิยูกิ ชิกะ ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่นได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นเดินหน้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนต่อไป โดยกล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องการให้สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 90 เยนต่อดอลลาร์

-- หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์ ของอินโดนีเซียรายงานอ้างคำกล่าวของนายกิตา วีร์จาวาน ประธานคณะกรรมการประสานงานการลงทุนของอินโดนีเซีย (BKPM) ว่า อินโดเซียอาจบรรลุเป้าหมายในการดึงดูดเม็ดลงทุนจำนวน 160.1 ล้านล้านรูเปียห์ (1.777 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีนี้ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ