ผลสำรวจความคิดเห็นเรื่องแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่งจัดทำโดยเวสต์แพค ร่วมกับหอการค้าและอุตสาหกรรมของออสเตรเลีย บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของออสเตรเลียมีแนวโน้มลดลงในไตรมาส 3 โดยเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศ
ผลสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ดัชนีพ้องเศรษฐกิจ (composite index) ที่แท้จริงลดลง 7.1 จุด สู่ระดับ 49.5 จุด ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบปี และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการสำรวจประจำไตรมาส 2 ที่ 54.8 จุด
ขณะที่ดัชนีพ้องเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ ลดลง 4.6 จุด มาอยู่ที่ระดับ 50.2 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีที่ใกล้ระดับ 50 จุด บ่งชี้ว่าการขยายตัวของภาคการผลิตประสบภาวะชะงักงัน หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกนั้น ดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 จุด ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการขยายตัว
นายฮูว์ แมคเคย์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเวสต์แพค กล่าวว่า "เรารู้สึกแปลกใจกับตัวเลขที่ลดลง ซึ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีแนวโน้มทรงตัวในครึ่งปีหลัง"
ทั้งนี้ การผลิตในไตรมาส 3 ของออสเตรเลียจะมีทิศทางเดียวกับตลาดโลก ซึ่งเป็นช่วงที่การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศต่างๆเริ่มเปลี่ยนแปลงจากที่นำโดยรัฐบาล ไปเป็นภาคเอกชนที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้สิ้นสุดลง
นายแมคเคย์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีใครได้คะแนนเสียงข้างมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวนั้น มีผลต่อการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการสำรวจ 80% กระทำหลังการเลือกตั้ง
ด้านนายเกร็ก อีแวนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของหอการค้าฯ กล่าวว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคาดหวังในระดับปานกลางในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงการคาดการณ์ราคาขาย สะท้อนให้เห็นว่าคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางต้องเข้ามาแทรกแซงตลาดด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำนักข่าวซินหัวรายงาน