ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรป (EU27)ในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงตามแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป และเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน หลังจากในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 กลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 24.1 (YoY) หลังจากที่หดตัวร้อยละ 30.5 (YoY) ในช่วงเดียวกันของปี 2552 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่ขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 รวมทั้งทิศทางการฟื้นตัวในช่วงครึ่งแรกปี 2553 ของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของสหภาพยุโรปอย่างสหรัฐฯ ทำให้การนำเข้าสินค้าเพื่อการผลิตหรือพัฒนาธุรกิจของยุโรปมีการปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหภาพยุโรปในช่วงครึ่งหลังมีแนวโน้มอ่อนแรงลง แม้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 เศรษฐกิจของ EU27 จะสามารถฟื้นตัวดีขึ้น แต่ดัชนีทางเศรษฐกิจหลายรายการเริ่มอ่อนแรง โดยเฉพาะภาคส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน (สหรัฐฯ และจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญด้วยสัดส่วนร้อยละ 18.7 และร้อยละ 7.5 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของ EU27) ที่เริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่ตลาดภายในประเทศเองก็ยังเปราะบางและมีทิศทางไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิตของเยอรมนี หรือราคาบ้านในสหราชอาณาจักร ประกอบกับการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และอัตราการว่างงานที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางมาตรการที่จะครบกำหนดลงในช่วงครึ่งหลังปี 2553 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหภาพยุโรปในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 อาจฟื้นตัวได้ไม่แข็งแกร่งนัก
ทั้งนี้ ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) คาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ EU27 จะขยายตัวชะลอลงเหลือร้อยละ 0.5 (QoQ) และร้อยละ 0.4 (QoQ) ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดีในครึ่งแรกปี 2533 จึงคาดว่าในปี 2553 เศรษฐกิจ EU27 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 1.8 (YoY) จากที่หดตัวถึงร้อยละ 4.2 (YoY) ในปีที่ผ่านมา
ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุด 4 อันดับแรกของสหภาพยุโรป คือ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร ล้วนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยในสหภาพยุโรป อีกทั้ง แนวโน้มการส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรปในช่วงที่ผ่านมายังมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อพิจารณาตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ EC ดังกล่าว ทำให้คาดว่าแนวโน้มส่งออกของไทยไปตลาดสหภาพยุโรปในช่วงที่เหลือของปี 2553 น่าจะชะลอตัวลงจากช่วงครึ่งแรกของปี 2553