สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า การนำเข้าที่ลดลงช่วยให้ประเทศยูโรโซนมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นมากในเดือนกรกฎาคม
โดยตัวเลขการประเมินครั้งแรกของยูโรสแตท ระบุว่า สมาชิกอียู 16 ประเทศที่ใช้เงินยูโร มียอดเกินดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 6.7 พันล้านยูโร (8.7 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับยอดเกินดุลการค้าเพียง 2.2 พันล้านยูโร (2.86 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ ยอดส่งออกในเดือนกรกฎาคมหลังจากปรับค่าฤดูกาลแล้วมีมูลค่าลดลงเล็กน้อย 0.6% ในขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 1.5%
ขณะที่ตัวเลขการค้าของสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ ปรากฏว่า มียอดขาดดุล 5.7 พันล้านยูโร (7.4 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนกรกฎาคม เทียบกับยอดขาดดุล 9.7 พันล้านยูโร (1.26 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนก่อนหน้า
รายงานของยูโรสแตทระบุว่า มูลค่าการค้าของสหภาพยุโรปกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายนปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของก่อน ยกเว้นการนำเข้าจากสหรัฐที่ลดลง 3%
ในปีที่ผ่านมา การค้าถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจอียู อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการยุโรปได้กล่าวเตือนว่า ตลาดโลกมีความต้องการลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปลดลงด้วยเช่นกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน