วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 61 ต่อ 38 ผ่านร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กด้วยการจัดหาเงินกู้และลดหย่อนภาษี พร้อมทั้งให้เงินสนับสนุนบริษัทขนาดเล็กที่เพิ่มการจ้างงานใหม่
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐจัดสรรงบประมาณมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นทุนในการจัดหาเงินกู้และลดหย่อนภาษีให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และเพิ่มวงเงินในโครงการ "Small Business Administration" เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจกลุ่มนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาขานรับการผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยระบุว่า "กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กหลายล้านรายทั่วสหรัฐได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีและสามารถขอกู้ยืมเงินเพื่อใช้เป็นทุนในการขยายธุรกิจและเพิ่มการจ้างงาน มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาเพิ่มการจ้างงานในระยะเวลาอันใกล้นี้"
หลังจากผ่านร่างในที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว กฎหมายฉบับดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะส่งต่อให้กับทางทำเนียบขาวเพื่อให้ประธานาธิบดีโอบามาลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ความพยายามในการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐของโอบามา สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่พยายามกดดันให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มปริมาณการปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก โดยระบุว่าการเปิดทางให้ธุรกิจประเภทดังกล่าวเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและจะช่วยลดอัตราว่างงานลงด้วย เบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า ความเหลื่อมล้ำระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามคาด และอาจทำให้เศรษฐกิจถึงกับตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธุรกิจขนาดเล็กเป็นเสาหลักสำหรับการกระตุ้นการจ้างงานในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ระยะฟื้นตัว