ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำและส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.740 เยน จากระดับของวันศุกร์ (17 ก.ย.) ที่ 85.840 เยน และอ่อนตัวลง 0.41% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0054 ฟรังค์ จากระดับ 1.0095 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3063 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3045 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.49% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5550 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5626 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9360 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7291 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7257 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงิน ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากเฟดส่งสัญญาณว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ MBS เพิ่มขึ้น ก็อาจจะหนุนเศรษฐกิจโดยรวมให้ฟื้นตัวขึ้น แต่การดำเนินการดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันใหกับดอลลาร์ แต่การที่เฟดจะยังคงใช้มาตรการ QE ต่อไปหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค
เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายตรวจสอบวิกฤตการณ์การเงินของสหรัฐ (Financial Crisis Inquiry Commission) เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า เฟดพร้อมที่จะเข้าซื้อตราสารหนี้ MBS และพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือหากเฟดพบว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยเบอร์นันเก้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ความไม่นอนอย่างไม่ปกติ" อันเป็นผลมาจากภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาคครัวเรือนจับจ่ายใช้สอยน้อยลงและทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะที่เปราะบางมาก
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนส.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.และรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.