นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ภัทร(PHATRA) กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ไม่ควรออกมาตรการมาสกัดกั้นการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้นที่จุดใดจุดหนึ่ง อย่างกรณีของตลาดตราสารหนี้ เพราะสาเหตุที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้นมาจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาหลายช่องทาง ดังนั้น การแบ่งแยกควบคุมเฉพาะบางตลาดจึงไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ นายศุภวุฒิ กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้ใช้มาตรการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ แต่ควรเป็นการทำให้การไหลเข้าฝืดลง เพราะแนวโน้มของเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง เนื่องจากเงินทุนจากสหรัฐและยุโรปยังไหลทะลักเข้ามาในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยเพื่อหาผลตอบแทนจากส่วนต่างดอกเบี้ย โดยเฉพาะดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยสูงถึง 2.4% ขณะที่พันธบัตรสหรัฐให้ดอกเบี้ยเพียง 0.5%
พร้อมกันนี้ ยังแนะนำให้ผู้นำเข้าควรใช้จังหวะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นสั่งซื้อสินค้าทุน เครื่องจักร และวัตถุดิบ เพราะจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตสินค้าลดลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในปีหน้าได้ และอาจส่งผลให้นโยบายอัตราดอกเบี้ยผ่อนคลายลง แต่ทั้งนี้ ธปท.เองควรต้องหาความสมดุลระหว่างอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเป็นเครื่องมือดูแลเงินเฟ้อที่เหมาะสม