นางเจียง ยู โฆษกหญิงจากกระทรวงต่างประเทศจีนเผย การแข็งค่าของเงินหยวนของจีนไม่สามารถช่วยให้สหรัฐแก้ปัญหาขาดดุลการค้ากับจีนได้ พร้อมกับย้ำว่า ปัญหาไร้ดุลยภาพทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐเป็นผลมาจากสถานการณ์ในตลาดแรงงานมากกว่าความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
นางเจียงเปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้มีเจ้าหน้าที่บางรายในสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์ถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และชี้แนะถึงแนวทางผลักดันการแข็งค่าของสกุลเงิน ซึ่งนั่นเป็นเพียงความคิดตื้นๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหยวนจะไม่ช่วยให้ปัญหาความไร้สมดุลทางการค้าระหว่างประเทศคลี่คลายลง ไม่ว่าจะเป็นการค้าระหว่างจีนกับประเทศใดๆ ก็ตาม
นอกจากนี้ นางเจียงยังกล่าวด้วยว่า จีนมีความกังวลต่อการเพิ่มยอดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอยู่เสมอ พร้อมทั้งขอให้สหรัฐดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้ามายังประเทศจีน
ทั้งนี้ แนวทางการปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนเป็นนโยบายสำคัญที่จีนผลักดันให้บรรลุผลสำเร็จ ซึ่งทุกฝ่ายต่างเห็นว่าเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นนับตั้งแต่มีการปฏิรูปค่าเงินเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นับตั้งแต่มีการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเมื่อปี 2548
เจียงกล่าวทิ้งท้ายว่า จีนและสหรัฐควรเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะสหรัฐควรเดินหน้านโยบายการเงินและการคลังที่เอื้อต่อการสร้างเสถียรภาพของสกุลเงินต่างประเทศในฐานะที่สหรัฐมีบทบาทต่อการกำหนดสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรอง ซึ่งความพยายามเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก