นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแนวทางการติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปี 2553/54 เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร รวมทั้งรับทราบนโยบายในการติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปี 2553/54 เป็นแนวทางปฏิบัติ
นายไตรรงค์ ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้นำมาตรการรับจำนำผลิตผลมาใช้ในการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลตกต่ำ โดยกำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดค่อนข้างมากส่งผลให้กลไกตลาดไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ รัฐบาลต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากทั้งค่าแปรสภาพ ค่าเก็บรักษา ค่าตรวจคุณภาพ และระบายสินค้า ประกอบกับมีสินค้าจำนำเก็บไว้นานทำให้เสื่อมคุณภาพและค้าขายขาดทุนก่อให้เกิดภาระทางการคลัง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลชุดนี้จึงได้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกร เพื่อเป็นการประกันรายได้ให้เกษตรกรในระดับหนึ่งว่า จะได้กำไรจากการลงทุนผลิตสินค้าอย่างน้อย 20% หลังจากคำนวณต้นทุนแล้ว และรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของโกดังเก็บสินค้าเกษตรถึงปีละ 800 ล้านบาท
ส่วนสินค้ามันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะราคาอ้างอิงส่วนใหญ่จะต่ำกว่าราคาตลาด มีการชดเชยบ้างในต้นฤดู แต่ไม่มากเหมือนกับข้าว
อย่างไรก็ตาม ใน 1 ปีที่ผ่านมามีเกษตรกร 3 ล้านกว่าคนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ และคาดว่าปีนี้จะมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรเป็นโครงการใหม่จึงยังมีจุดอ่อนอยู่มากทั้งเจตนาและไม่เจตนา มีความบกพร่องเกิดขึ้น ดังนั้น คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร จะต้องลงไปติดตามประเมินผลเพื่อให้เกิดความบกพร่องน้อยที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร หากปัญหาใดแก้ไขได้ก็สามารถดำเนินการได้เลยในแต่ละพื้นที่ แต่หากไม่สามารถแก้ไขได้ขอให้รวบรวมปัญหาทั้งหมดส่งมายังรัฐบาลเพื่อจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป รวมทั้งทำให้ระบบมีประสิทธิภาพ และเงินถึงมือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอย่างแท้จริง
ด้านนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร กล่าวรายงานว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกร ดำเนินการในเรื่องการประกันรายได้พืชหลัก 3 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งดำเนินการในปี 2552-2553 มาโดยลำดับ
สำหรับในปีการผลิต 2553/54 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้การดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพืชหลักเศรษฐกิจทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวได้มีคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกร ดำเนินการอย่างต่อเนื่องกันไป