ผลสำรวจเผยผู้ประกอบธุรกิจในออสเตรเลีย 75% ค้านการเก็บภาษีคาร์บอน

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 23, 2010 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งออสเตรเลีย (ACCI) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบธุรกิจกว่า 350,000 รายในออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ซึ่งระบุว่าผู้ประกอบการ 75% ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีคาร์บอน

เมื่อไม่นานมานี้ ACCI ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจจำนวน 1,000 ราย ซึ่งผลการสำรวจเผยว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับกรอบการซื้อขายสิทธิ์การปล่อยมลพิษ (Emissions Trading Scheme : ETS) หรือการเก็บภาษีคาร์บอน

"ผู้ประกอบการทั้งหมดมาจากทุกภาคส่วน รวมถึงธุรกิจที่ใช้พลังงานมากและธุรกิจบริการ" เกรก อีแวนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวที่กรุงแคนเบอร์รา นอกจากนั้นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการถกเถียงกันเรื่องภาษีในออสเตรเลียได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนชาวจีนจำนวนมากที่ต้องการมาลงทุนในออสเตรเลีย

"ผมเข้าใจดีว่าผู้ประกอบธุรกิจกังวลกับเรื่องภาษีและการปล่อยก๊าซเสมอ โดยเฉพาะเมื่อยังไม่แน่ใจว่าธุรกิจของตนรวมถึงผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบอย่างไร" เขากล่าว "ผมคิดว่าผู้ประกอบธุรกิจคงอยากให้เราแก้ปัญหานี้ด้วยการลดการปล่อยก๊าซผ่านการประหยัดพลังงานและการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานให้มากขึ้น"

ขณะเดียวกันนายอีแวนส์กล่าวว่าสิ่งที่ผู้บริโภคกังวลที่สุดคือ การที่ต้องเจียดรายได้มาจ่ายค่าพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม

"เราคิดว่าเราน่าจะแก้ปัญหาผ่านการใช้เทคโนโลยีและการประหยัดพลังงาน แทนที่จะเก็บภาษีคาร์บอนหรือซื้อขายสิทธิ์การปล่อยมลพิษ" เขากล่าว

นอกจากนั้นผลสำรวจดังกล่าวยังเผยว่าผู้ประกอบธุรกิจกังวลเรื่องต้นทุนด้านพลังงานมากที่สุด โดยผู้ประกอบธุรกิจที่ต่อต้านการเก็บภาษีคาร์บอนหรือการซื้อขายสิทธิ์การปล่อยมลพิษมีมากกว่าผู้สนับสนุนเกินสองเท่า

ผลสำรวจดังกล่าวได้รับการเปิดเผยขณะที่ เกรก คอมเบท รัฐมนตรีผู้ดูแลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ส่งสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลกลางออสเตรเลียเตรียมพิจารณาบังคับใช้นโยบายเก็บภาษีคาร์บอน ขณะที่พรรคกรีนส์ก็ผลักดันการเก็บภาษีคาร์บอนมาอย่างต่อเนื่อง

นายอีแวนส์กล่าวว่า การกำหนดราคาพลังงานก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงระหว่างประเทศถือเป็นความคิดที่แย่มาก

"สถานการณ์ในออสเตรเลียในตอนนี้บ่งชี้ว่าออสเตรเลียอาจต้องแบกรับราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นสองเท่าในปี 2558 และสามเท่าในปี 2563 และไม่ใช่เป็นเพราะการซื้อขายสิทธิ์การปล่อยมลพิษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหาอื่นๆ อย่างการอัพเกรดเครือข่ายของเราด้วย" นายอีแวนส์ กล่าว

"ราคาพลังงานจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากเดิมที่ไม่แพงมากและมีซัพพลายเพียงพอต่อความต้องการ เราวิตกว่าจะสูญเสียความได้เปรียบดังกล่าวเพราะการเก็บภาษีคาร์บอนและการซื้อขายสิทธิ์การปล่อยมลพิษ"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ