ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ หลังยุโรปเผยดัชนี PMI-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday September 24, 2010 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจยุโรป หลังจากมีรายงานว่าดัชนี PMI โดยรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการในยุโรป หดตัวลงในเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยุโรปปรับตัวลดลง

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.60% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3318 ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธ (22 ก.ย.) ที่ 1.3399 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5675 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5658 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.330 เยน จากระดับของวันพุธที่ 84.520 เยน และร่วงลง 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9853 ฟรังค์ จากระดับ 0.9866 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.66% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9500 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9563 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7298 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7383 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรหลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โดยรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ หดตัวลงสู่ระดับ 53.8 จุดในเดือนก.ย. จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 56.2 จุด ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.7 จุด

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังถูกกดดันจากรายงานของคณะกรรมการสหภาพยุโรปที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ลดลงแตะระดับ -11.8 จุด ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ระดับ -11.2 จุด

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจยุโรปเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่าเศรษฐกิจไอร์แลนด์หดตัวลง 1.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไอร์แลนด์กำลังเผชิญปัญหาการนำเงินคงคลังมาใช้ในการกอบกู้ภาคธนาคาร

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันความพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันให้กับค่าเงินดอลลาร์อย่างมาก

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ก.ย.เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 465,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 450,000 ราย

ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 7.6% สู่ระดับ 4.13 ล้านยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.84 ล้านยูนิต นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.และรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ