ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ เหตุการฟื้นตัวทางศก.สหรัฐยังเปราะบาง

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 25, 2010 08:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐยังเปราะบางและไม่มีความชัดเจน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในการประชุมเฟดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.290 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดี (23 ก.ย.) ที่ 84.350 เยน และร่วงลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9847 ฟรังค์ จากระดับ 0.9854 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3491 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3310 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.00% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5830 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5673 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9589 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9487 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7336 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7286 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยแถลงการณ์ในที่ประชุมเฟดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 ก.ย.) ระบุว่า เฟดจะยังจับตาดูแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเมื่อถึงเวลาจำเป็น

ขณะเดียวกัน สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NBER) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลงแล้วในเดือนมิ.ย.2552 อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังไม่กลับสู่ภาวะปกติในขณะนี้ ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง

สำหรับความเคลื่อนไหวของเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นนั้นได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยผลสำรวจของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนกันยายน แตะระดับ 106.8 จุด จากระดับ 106.7 จุดในเดือนสิงหาคม ซึ่งดัชนีดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงภาวะเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยสถาบัน Ifo กล่าวว่าบรรดาผู้ประกอบการมีมุมมองในแง่บวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ