บสย.เล็งขออนุมัติเพิ่มทุน ตั้งเป้ายอดค้ำประกันสินเชื่อปี 54 แสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 27, 2010 10:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เปิดเผยว่า ในปี 54 บสย.ตั้งเป้าหมายในการค้ำประกันสินเชื่อให้ได้ 1 แสนล้านบาท ซึ่งการตั้งเป้าหมายดังกล่าวทำให้มีความจำเป็นที่ บสย.จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในเร็วๆ นี้จะเตรียมเสนอขอรัฐบาลเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าว เพื่อให้การค้ำประกันสินเชื่อในปีหน้าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

"ตอนนี้เรามีทุนอยู่ 6 พันล้านบาท ความสามารถในการค้ำประกันสินเชื่ออยู่ที่ 13 เท่า คือ 78,000 ล้านบาท แต่ตอนนี้เกือบจะเต็มแล้ว ก็อาจจะขอรัฐบาลเพิ่มทุน" นายพิชิต ระบุ

โดยจนถึงสิ้นปีนี้ บสย.คาดว่าจะมียอดการค้ำประกันสินเชื่อราว 80,000 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-ส.ค.) มียอดขาดทุน 118 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขาดทุนที่เกิดจากการตั้งสำรองทางบัญชีตามหลักเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีเหตุให้กระทบต่อสถานะทางการเงินของ บสย.แต่อย่างใด

พร้อมมองว่า ขณะนี้ในระบบเศรษฐกิจของไทยยังมีความต้องการการค้ำประกันสินเชื่อจากกลุ่ม SMEs อยู่ราว 1.2 ล้านล้านบาท ในขณะที่ความสามารถในการค้ำประกันสินเชื่อดังกล่าวในไทยยังมีไม่ถึง 10% ดังนั้น บสย.จึงพยายามจะเพิ่มยอดการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการค้ำประกันสินเชื่อที่มีการเติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ประธานกรรมการ บสย. กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานในปี 54 ว่า เป้าหมายของยังคงเป็นกลุ่มลูกค้า SMEs ราว 2.8 ล้านล้านราย แต่ บสย.จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในการค้ำประกันสินเชื่อ รวมทั้งเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงผู้ประกอบการให้มากขึ้น ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มยอดการค้ำประกันสินเชื่อได้มากขึ้น

"ปีหน้า เรามีแนวทางในการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะตอบโจทย์ให้ตรงความต้องการของสถาบันการเงินและผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด ขณะนี้ บสย.อยู่ระหว่างวิเคราะห์ความเสี่ยงในด้านต่างๆ ให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงินในการอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการด้วย" นายพิชิต กล่าว

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินการหลัก คือ การบริหารกลยุทธ์การตลาดที่สอดประสานและส่งเสริมการบริหารจัดการด้านความเสี่ยง และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภายใน รวมทั้งการให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่ง บสย.พร้อมจะนำผลิตภัณฑ์ค้ำประกันที่สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้า โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือการรักษาพันธกิจที่จะสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของ SMEs

นายพิชิต กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ บสย.ได้รับอนุมัติวงเงินค้ำประกันให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการ Portfolio Guarantee Scheme เฟสที่ 2 จำนวน 3 หมื่นล้านบาทนั้น ล่าสุดสามารถอนุมัติค้ำประกันในโครงการดังกล่าวไปแล้ว 33,405 โครงการ คิดเป็นวงเงินที่อนุมัติรวมทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท ช่วยก่อให้เกิดสินเชื่อเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินเป็นจำนวน 94,666 ล้านบาท สามารถรักษาสภาพการจ้างงานได้ 634,721 คน และมีการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้น 55,393 คน ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะสามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันได้ครบทั้ง 30,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ