นายสาธิต รังคศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับเป้าหมายอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 53 ใหม่เป็นโต 7.5% จาก 5.5% เมื่อเดือนมิ.ย. อัตราเงินเฟ้อปี 53 อยู่ที่ 3.4% สำหรับอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่าเงินบาทสิ้นปีอยู่ที่ราว 30 บาท/ดอลลาร์ โดยทั้งปี 53 เฉลี่ยที่ 31.70 บาท/ดอลลาร์
ขณะที่ปี 54 คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะอยู่ที่ 4-5% และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 3.5%
ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีคาดว่าปรับเพิ่มเป็น 2% และปี 54 แตะ 3%
นายสาธิต กล่าวว่า จีดีพีของไทยในช่วงไตรมาส 3/53 ยังเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดว่าจะมีอัตราเติบโตในระดับ 6% และในไตรมาส 4/53 จะขยายตัวประมาณ 3.3%
“เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2553 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2553 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี" ผอ.สศค.กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า ในปี 54 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยจะกลับเข้าสู่ภาววะปกติที่ 4.5% โดยมีช่วงคาดการณ์ไว้ที่ 4-5% เนื่องจากมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้
สศค.คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะเติบโต 4.2% ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ส่วนการลงทุนของภาคเอกชน คาดว่าจะโต 5.9% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ อัตราการใช้กำลังผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตเพื่อการส่งออกอยู่ในระดับสูงมาตั้งแต่ปี 53 ขณะที่ยังมีแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนั้นยังคาดว่าจะทำให้ปี 54 มูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัว 22% ขณะที่มูลค่าการนำเข้าจะขยายตัว 13.2% ส่งผลให้ดุลการค้าปี 54 จะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 9.4 พันล้านเหรียญ สรอ. ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดก็จะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านเหรียญ สรอ. หรือ ประมาณ 34% ของจีดีพี
ด้านการใช้จ่ายภาครัฐคาดว่าในด้านการบริโภคจะขยายตัว 6.4% ตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาครัฐจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ 1.7% ตามบทบาทของภาครัฐ ในการสนับสนุนเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอลงในช่วงที่ภาคเอกชนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ส่วนเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าเงินเฟ้อในปี 54 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่ายังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปี 53 ในขระที่อัตราการว่างงานจะอยู่ในระดับปกติที่ 1.2%
ทั้งนี้ สศค.ได้ใช้ 6 สมมติฐานหลักสำหรับการประมาณการเศรษฐกิจในปี 54 คือ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก 14 ประเทศฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด, ราคาน้ำมันดิบดูไบ ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อันมีผลมาจากฐานต่ำในปีก่อน, ดัชนีราคาสินค้าส่งออกและนำเข้าขยายตัวเร่งขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าเกษตรและราคาน้ำมันในตลาดโลก ข้อสี่ เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและมีความผันผวนสูงจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ, อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น และ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี และรายจ่ายนอกเงิบประมาณ หรืองบไทยเข้มแข็งยังเป็นไปตามเป้าหมายในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ