สศค.เผยเศรษฐกิจไทยส.ค.ยังโตดีต่อเนื่อง ส่งออกขยายตัวมากกว่าคาดการณ์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 27, 2010 13:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.53 ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ในขณะที่การส่งออกขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม

ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนเติบโตได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ร้อยละ 18.7 ต่อปี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีเช่นกัน สะท้อนได้จากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัวที่ร้อยละ 34.2 ต่อปี ส่วนมูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 23.9 ต่อปี จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 20.6 ต่อปี โดยเป็นการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่นที่กลับมาขยายตัวได้ดีมาก

ขณะที่เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจด้านการผลิตทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการยังคงขยายตัวได้ดี แม้จะมีสัญญาณของชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ภาคเกษตรหดตัวเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) ขยายตัวที่ร้อยละ 8.6 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ต่อปี

สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ระดับ 102.4 จุด ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 108.6 จุด เป็นผลจากการปรับลดลงของดัชนียอดคำสั่งซื้อและผลประกอบการ อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงสูงกว่า 100 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีในระดับหนึ่ง

เครื่องชี้ภาคบริการจากการท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ 1.25 ล้านคน ขยายตัวที่ร้อยละ 8.9 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 14.2 ต่อปี จากการหดตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและอเมริกา เป็นสำคัญ

สำหรับเครื่องชี้ภาคการเกษตรวัดจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวที่ร้อยละ 4.2 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี โดยเป็นการหดตัวจากมันสำปะหลังเป็นหลัก เนื่องจากปัญหาโรคระบาดและศัตรูพืช ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรในเดือนสิงหาคม 2553 ยังขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูงที่ร้อยละ 31.1 ต่อปี ทำให้รายได้ของเกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 17.5 ต่อปี

เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี จากราคาสินค้าในหมวดอาหารสด โดยเฉพาะผักและผลไม้ ที่ขยายตัวสูงขึ้นเป็นหลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี

ส่วนอัตราการว่างงานในเดือน ก.ค.53 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งคิดเป็นจำนวนคนว่างงานเท่ากับ 3.5 แสนคน สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือน มิ.ย.53 อยู่ที่ร้อยละ 43.2 ต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60.0

เสถียรภาพภายนอกประเทศยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจการเงินโลก สะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ส.ค.53 อยู่ในระดับสูงที่ 155.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นกว่า 4.6 เท่า

นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจของการใช้จ่ายภายในประเทศอื่นๆ ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่สะท้อนได้จากปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคในเดือน ส.ค.53 ขยายได้ในระดับสูงถึงร้อยละ 31.5 ต่อปี ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ดี สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 34.2 ต่อปี

นอกจากนี้ มูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีมาจากปริมาณการส่งออกที่ขยายตัวร้อยละ 16.4 ต่อปี เป็นสำคัญ โดยสินค้าส่งออกหลักขยายตัวได้ดีในแทบทุกหมวด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ