ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของรัฐบาลในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงไอร์แลนด์ นอกจากนี้ ข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับเครดิตธนาคารแห่งหนึ่งของยุโรป ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายเงินยุโร
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3474 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (24 ก.ย.) ที่ 1.3488 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5854 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5819 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.210 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 84.180 เยน และดีดตัวขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9841 ฟรังค์ จากระดับ 0.9827 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9625 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9588 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7337 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ด้านการคลังในประเทศแถบยูโรโซน โดยเฉพาะไอร์แลนด์ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในความพยายามพยุงภาคธนาคารให้รอดพ้นจากวิกฤ โดยมีรายงานว่ารัฐบาลไอร์แลนด์เตรียมเพิกถอนการค้ำประกันหนี้บางประเภทของธนาคารไอร์แลนด์ในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลไปทั่วตลาดการเงินแม้รัฐบาลไอร์แลนด์ออกแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ไอร์แลนด์หรือธนาคารไอร์แลนด์จะผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติไอร์แลนด์รายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 หดตัวลง 1.2% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 0.5% ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไอร์แลนด์มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย และยังทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมในยุโรปชะลอตัวลงด้วย
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาแองโกล ไอริช แบงค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารยุโรปที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในภาคการเงินของยุโรป
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ค.ของสหรัฐ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.