ราคาข้าวโพดล็อตใหม่ในตลาดจีนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากดีมานด์ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้นและความต้องการที่จะเติมเต็มสำรองสต็อกข้าวโพดของรัฐบาลภายหลังจากที่ได้เปิดประมูลขายไปเป็นจำนวนมาก
ส่วนอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล และมีแนวโน้มว่า จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงที่อากาศเย็นลง ส่งผลให้ความต้องการอาหารเลี้ยงสัตว์ยังอยู่ในระดับที่สูงและทำให้ข้าวโพดมีราคาสูงตามไปด้วย
ในขณะเดียวกัน การบริโภคข้าวโพดในภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอัตราคงที่เนื่องจากการแปรรูปข้าวโพดในประเทศมีช่องทางการส่งออกเพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาข้าวโพดได้ทะยานขึ้นในตลาดสหรัฐ
-- กระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOC) เปิดเผยว่า จีนวางแผนจะกำหนดระบบการหมุนเวียนผลิตภัณฑ์การเกษตรสมัยใหม่ภายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
โดยมาตรการหมุนเวียนล่าสุดที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังร่วมกันกำหนดนั้น เปิดช่องให้รัฐบาลสามารถให้การสนับสนุนทางการเงินแก่มณฑลเหอเป่ย์ เหลียวหนิง เจ้อเจียง ชานตง เหอหนาน หูเป่ย์ ฉงฉิ่ง และ ซินเจียง เพื่อจัดตั้งระบบการหมุนเวียนสมัยใหม่ของผลิตภัณฑ์การเกษตร
-- นายจาง เสี่ยวเจียง รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนด้านเศรษฐกิจ กล่าวในการประชุมทางไกลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จีนสามารถรักษาความสมดุลด้านดีมานด์และซัพพลายฝ้ายของตลาดภายในประเทศได้
ทั้งนี้ จีนคาดว่า การผลิตฝ้ายประจำปีจะลดลงเล็กน้อยในปี 2553 (กันยายน 2552 - สิงหาคม 2553) เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกลดลงหลังจากที่ราคาฝ้ายตกต่ำในปีที่แล้ว
-- ธนาคารอะกริคัลเจอรัล แบงค์ ออฟ ไชน่า ของจีน (ADBC) ซึ่งเป็นธนาคารส่งเสริมภาคการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาลจีน จะปล่อยสินเชื่อในวงเงิน 1.8 แสนล้านหยวนเพื่อรองรับการรับซื้อธัญพืชสำหรับการเก็บเกี่ยวในปีนี้ โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่างบประมาณปีที่แล้ว 5% และสูงกว่างบประมาณในปี 2551 เท่ากับ 8%
ส่วนบริษัทที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ADBC คาดว่าจะใช้เม็ดเงินในการรับซื้อธัญพืชจำนวน 9.5 หมื่นล้านกิโลกรัม มูลค่าทั้งสิ้น 2.1 แสนล้านหยวน โดยจะได้รับสินเชื่อจาก ADBC จำนวน 1.8 แสนล้านหยวน
-- นายซู ลี่เขอ ผู้อำนวยการองค์การป่าไม้ของจีน กล่าวในที่ประชุมในมณฑลหูหนานในภาคกลางของจีนว่า จีนได้ปลูกต้น Tea Oil ในพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น 2.6 ล้าน mu (174,200 เฮคตาร์) ในปี 2553 ซึ่งเป็นสถิติที่มากกว่าพื้นที่การปลูกป่าต้น Tea Oil ในปีที่แล้วถึง 4 เท่า
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมต้น Tea Oil กำลังได้รับความนิยมในจีนในเขตเพาะปลูกที่สำคัญ 14 เขต ของมณฑลเจียงซี หูหนาน และ กวางซี โดยคุณภาพของต้น Tea Oil ได้รับการยอมรับมากขึ้นจากลูกค้า เนื่องจากมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านการเพาะชำและการปรับปรุงพันธุ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน