นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้มีมติอนุมัติให้บมจ. ทีโอทีลงทุนแผนธุรกิจโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3G วงเงินราว 1.9 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดิมราว 1 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของทีโอทีด้วยกการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหาร รวมทั้ง ใช้โครงข่ายร่วมกันเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน
พร้อมกันจะมีการปรบปรุงสถานีให้บริการ 3G จาก 4,700 สถานี ให้เพิ่มเป็น 5,400 สถานี โดยจะครออบคลุมพื้นที่กทม.และจังหวสัดอื่น ๆ รวม 12-15 จังหวัด โดยจะสามารถครอบคลุมผู้ใช้บริการโทรศัพท์ 50% ถ้าทำได้เร็ว ก็น่าจะได้เห็นภายใน 6 เดือน
นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติโครงการลงทุนโครงข่ายระบบ 3G ของทีโอที ซึ่งได้มีการปรับลดวงเงินลงทุนจากเดิม 2.9 หมื่นล้านบาท เหลือ 19,980 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานประกวดราคาวางระบบ 17,740 ล้านบาท , ค่าอุปกรณ์สนับสนุนและขยายขีดความสามารถของโครงข่าย 540 ล้านบาท และ งานปรับปรุงโครงข่ายเดิมของบริษัท ACT Mobile จากระบบ 2G เป็น 3G มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ทางทีโอทีได้มีการปรับลดอัตราผลตอบแทนการลงทุน(IRR)ในโครงการดังกล่าวลงเหลือ 19.49% ต่ำกว่าโครงการที่เสนอไว้ภายใต้วงเงินลงทุนเดิมที่มี IRR ในระดับ 20.10%
พร้อมกันนั้น ยังอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงวิธีการประกวดราคาจากเดิมกำหนดเป็นรูปแบบ International bid ให้เป็นการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปภายในประเทศ เพื่อประหยัดเวลาในการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม.วันนี้ได้มอบหมายให้ทีโอทีไปจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง แผนธุรกิจ และการบริหารจัดการ เนื่องจากได้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องความเสี่ยงของทีโอทีในแง่ของการให้บริการ 3G เพราะเกรงว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากการเปิดประมูลระบบ 3G โดยคณะกรรมการกิจกการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ที่อาจเกิดขึ้นได้
ครม.ยังรับทราบข้อสังเกตของกระทรวงการคลังว่าการตัดสินใจลงทุนดังกล่าวถือเป็นการลงทุนให้บริการเชิงพาณิชย์ กระทรวงการคลังจึงไม่รับค้ำประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น