นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ได้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นครั้งที่ 32 ภายใต้ความร่วมมือทางการเงิน ครั้งที่ 32 นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงจะให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจกู้เงินโดยผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำหรับใช้ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 23,946 ล้านเยน
แบ่งเป็น โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 ของกรมทางหลวงชนบท 7,307 ล้านเยน และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 2 ของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงการคลังค้ำประกัน 16,639 ล้านเยน
สำหรับเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน โดยมีอัตราดอกเบี้ยสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการสำหรับโครงการ (1) ในอัตราร้อยละ 0.95 ต่อปี ระยะชำระหนี้ 20 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้เงินต้น 6 ปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับโครงการ (2) อัตราร้อยละ 1.4 ต่อปี ระยะชำระหนี้ 25 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้เงินต้น 7 ปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับส่วนค่าจ้างที่ปรึกษาร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยมีค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ร้อยละ 0.1 ของวงเงินที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย ส่วนเงื่อนไขในการจัดซื้อสินค้าและบริการเปิดโอกาสให้กระทำโดยเสรี โดยสามารถจัดซื้อสินค้าและบริการได้จากทุกประเทศ โดยวิธีประกวดราคานานาชาติ
อนึ่ง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2511 จนถึงปัจจุบันมีวงเงินกู้รวมทั้งสิ้น 2,164,405 ล้านเยน โดยความช่วยเหลือทางการเงินส่วนใหญ่จะมุ่งให้แก่โครงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาเมือง และพัฒนาชนบท รวมทั้งโครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรมนุษย์