น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เผยหลังตรวจสอบสถิติการนำเข้าสินค้าไทยของสหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.) ของปีนี้พบว่ามีสินค้าที่มีแนวโน้มนำเข้าเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด 5 รายการ คือ เครื่องประดับทำจากโลหะเงิน, กาวที่ทำจากเดกซ์ทรินและแป้งมันสำปะหลังแปรรูป, เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง, มะม่วงแปรรูป และแป้งข้าวเจ้า ซึ่งหากยอดการส่งออกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเข้าตามเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งที่สหรัฐฯ กำหนด ก็อาจถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) สินค้าในกลุ่มนี้ได้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำหนดเพดานการนำเข้าสินค้าที่ได้รับ GSP ไว้ดังนี้ 1.ส่วนแบ่งตลาดนำเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่ 50% ขึ้นไป หรือ 2.มูลค่านำเข้าสหรัฐฯ สูงเกินระดับเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด โดยปี 53 เท่ากับ 145 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.สำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นเพดานการส่งออกมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี อาจถูกตัดสิทธิหากสินค้านั้นนำเข้าสหรัฐฯ โดยมีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าตั้งแต่ 75% ขึ้นไป หรือมีมูลค่านำเข้าเกิน 150% ของระดับเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด โดยปี 53 เท่ากับ 217.50 ล้านเหรียญฯ
รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันเครื่องประดับทำจากโลหะเงินเสียภาษี 5% สหรัฐฯ นำเข้าจากไทย 207.27 ล้านเหรียญฯ มีส่วนแบ่งตลาด 31.23% อาจถูกตัดสิทธิ GSP เพราะมูลค่านำเข้าเกินเพดาน, กาวที่ทำจากเดกซ์ทรินและแป้งมันสำปะหลังแปรรูป ภาษี 0.7 เซนต์/กิโลกรัม นำเข้า 12.48 ล้านเหรียญฯ ส่วนแบ่งตลาด 28.50%, เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ภาษี 2.2% นำเข้า 6.94 ล้านเหรียญฯ ส่วนแบ่งตลาด 29.16%, มะม่วงแปรรูป ภาษี 1.5 เซนต์/กิโลกรัม นำเข้า 4.18 ล้านเหรียญฯ ส่วนแบ่งตลาด 31.11% และแป้งข้าวเจ้า ภาษี 0.09 เซนต์/กิโลกรัม นำเข้า 3.10 ล้านเหรียญฯ ส่วนแบ่งตลาด 36.73% โดย 4 รายการหลังอาจถูกตัดสิทธิ GSP เพราะส่วนแบ่งตลาดเกินเพดานที่กำหนด
“ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ได้ออกประกาศเพื่อเปิดการทบทวนโครงการจีเอสพีสหรัฐฯ ประจำปี 53 มีกำหนดระยะเวลาในการยื่นคำร้องในส่วน ที่เกี่ยวกับการขอยกเว้นเพดานส่งออกภายในวันที่ 16 พ.ย.53 ซึ่งกรมได้ประสานไปยังผู้ส่งออกสินค้าไทยกลุ่มต่างๆ เพื่อเตรียมข้อมูลยื่นคำร้องต่อยูเอสทีอาร์สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะถูกตัดสิทธิ ทั้งในส่วนที่เกินเพดานนำเข้า และส่วนแบ่งตลาด เพื่อไม่ให้มีการตัดสิทธิแล้ว" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว