สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 348 ต่อ 79 ผ่านร่างกฎหมายการปฏิรูปสกุลเงินเพื่อการค้าที่เป็นธรรม (Currency Reform for Fair Trade Act) เพื่อเปิดทางให้สหรัฐสามารถคว่ำบาตรการค้า ซึงรวมถึงการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีพฤติกรรมปั่นค่าเงินอย่างผิดกฎหมาย โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะกดดันให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวนให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่กำลังขยายตัวขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะจะมีผลบังคับใช้ได้ก็ต่อเมื่อวุฒิสภามีมติผ่านร่างและจากนั้นจึงจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวซึ่งพุ่งเป้าโจมตีค่าเงินหยวนของจีนโดยเฉพาะนั้น จะไม่สามารถบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเลือกตั้งกลางเทอมของสภาคองเกรสสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้และกระแสกดดันจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย กำลังสร้างความลำบากใจให้กับวุฒิสภาสหรัฐที่จะลงนามรับรองร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยวุฒิสมาชิกเชอร์ร็อด บราวน์จากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า วุฒิสภาสหรัฐอาจจะไม่ลงมติในร่างกฎหมายเพื่อที่จะกดดันจีนให้ปรับขึ้นค่าเงินหยวน จนกว่าการเลือกตั้งสภาคองเกรสในวันที่ 2 พ.ย.จะผ่านพ้นไป
นายบราวน์ยังกล่าวด้วยว่า แม้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปสกุลเงินฉบับนี้ แต่คาดว่าวุฒิสภาไม่มีแนวโน้มที่จะลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนช่วงพักสมัยการประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติในอีกไม่กี่วันนี้ เพื่อลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
ทั้งนี้ สมาชิกสภาคองเกรสจำนวนมากเชื่อว่า จีนจงใจทำให้เงินหยวนมีมูลค่าต่ำเกินไปมากถึง 25-40% เพื่อให้บริษัทของจีนมีความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม
ด้านประธานาธิบดีโอบามาได้กล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นในรัฐไอโอวาเมื่อวานนี้ว่า "ผมพยายามผลักดันจีนให้จัดการกับค่าเงินหยวน เพราะเงินหยวนมีมูลค่าต่ำเกินไป ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็รู้ว่าจีนจงใจให้เงินหยวนอ่อนค่าต่ำเกินจริงเพียงเพื่อหวังผลทางการค้า จริงอยู่ที่การอ่อนค่าของเงินหยวนไม่ได้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีน แต่สถานการณ์เงินหยวนของจีนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การค้าของเราอยู่ในภาวะที่ไร้สมดุล"