World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 30, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดในยุโรป รวมถึงเบลเยียมและสเปน ได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในระบบการเงินของภูมิภาคแห่งนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจีดีพีไตรมาส 2 และดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 22.86 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 10,835.28 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 2.97 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 1,144.73 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.03 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,376.56 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและสต็อกเบนซินที่ร่วงลงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของบริษัทญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนส.ค.

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.21% ปิดที่ระดับ 77.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ในวันที่ 11 ส.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.60-78.13 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,310 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,310.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,306.10 - 1,314.80 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งฉุดดอลลาร์ให้ร่วงลงอีก

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.27% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.650 เยน จากระดับของวันอังคาร (28 ก.ย.) ที่ 83.880 เยน และอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9764 ฟรังค์ จากระดับ 0.9760 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3623 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3579 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5779 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5797 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9679 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9671 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7367 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7391 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกังวลเกี่ยวกับปัญหาในระบบการเงินของหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดในยุโรป รวมถึงเบลเยียมและสเปน อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกได้ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น และช่วยให้ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเท่านั้น

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 9.17 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 5,569.27 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,544.72-5,624.50 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ