ผลการสำรวจของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นชี้การผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.มีแนวโน้มว่า จะร่วงลง 1.5% จากไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. ขณะที่ยอดขายรถมีแนวโน้มว่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากโครงการให้เงินอุดหนุนเพื่อการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงานของรัฐบาลหมดอายุลง
ผลการสำรวจคาดว่า จำนวนรถยนต์ที่ได้มีการผลิตในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.คาดว่า จะอยู่ที่ 26.98 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.4% จากระดับปีที่แล้ว และคาดว่ายอดขายรถจะชะลอตัวลง โดยดีมานด์การใช้เหล็กในการก่อสร้างที่ชะลอตัวลงคาดว่า จะมีส่วนทำให้ยอดผลผลิตรถลดลงรายไตรมาสด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การส่งออกที่ต่อเนื่องนั้นเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้การผลิตเหล็กดิบในญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้น แต่เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆนั้นทำให้บริษัทผู้ผลิตเหล็กของญี่ปุ่นต้องแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งในต่างประเทศอย่างดุเดือด โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตของเกาหลีใต้ ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.นั้น การผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ที่ 27.38 ล้านตัน
ขณะที่ผลการสำรวจกลุ่มผู้ผลิตรถ อุปกรณ์อิเล็กทริก และผลิตภัณฑ์อื่นๆนั้น คาดว่า จะมีความต้องการเหล็กดิบ 23.84 ล้านตันในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 2.0% จากระดับปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสกลับลดลง 0.9%