Analysis: ผู้เชี่ยวชาญวิพากษ์สภาผู้แทนสหรัฐควรจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในเรื่องค่าเงิน

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 30, 2010 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายการปฏิรูปสกุลเงินเพื่อการค้าที่เป็นธรรม (Currency Reform for Fair Trade Act) เมื่อวานนี้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะเปิดทางให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับประเทศคู่ค้าที่ถูกกล่าวหาปั่นค่าเงินของตนเอง ถือเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลไปทั่วโลกอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นสัญญาณว่าการฝักใฝ่ลัทธิการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้ามีมากขึ้นในสหรัฐ และยังจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวที่เปราะบางของเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งแม้แต่สมาชิกสภาคองเกรส นักเศรษฐศาสตร์ และผู้บริหารบริษัทบางส่วนของสหรัฐเองก็มองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแต่จะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

การขาดวิสัยทัศน์ที่มีต่อสถานการณ์ในประเทศ

เสี่ยว เจิง ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียตะวันออกของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า สหรัฐควรจะพึ่งพาตนเองในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศมากกว่าที่จะหันไปฝักใฝ่ลัทธิปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าเพื่อประโยชน์ของตนเอง

การเลือกตั้งสภาคองเกรสที่กำลังใกล้เข้ามา และแรงกดดันที่มากขึ้นเรื่อยๆจากอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงนั้น ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะซบเซา ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐบางรายก็กำลังชั่งน้ำหนักดูว่า จะสนับสนุนหรือคัดค้านกฎหมายคว่ำบาตรสินค้านำเข้า เพื่อสนับสนุนการส่งออกของสหรัฐ

บริษัทเอกชนในสหรัฐได้จ้างงาน 67,000 ตำแหน่งเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าสถิติเดือนก.ค. และในปีนี้การจ้างงานในภาคเอกชนก็สามารถบรรจุตำแหน่งงานใหม่ๆได้เพียง 763,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ห่างไกลจากตัวเลขการเลย์ออฟพนักงานเกือบ 8.5 ล้านคนในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นักลงทุนเองก็ต้องรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการหารือร่วมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญา จึงทำให้มั่นใจได้ว่า สหรัฐจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและขยายตัวได้ ซึ่งถือเป็นอานิสงส์สำหรับจีนเอง รวมทั้งประเทศต่างๆทั่วโลก

นายกฯจีนกล่าวว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐนั้นเป็นความขัดแย้งในระดับโครงสร้าง ซึ่งสามารถทยอยแก้ไขได้ด้วยการให้ความใส่ใจในสถานการณ์โดยรวม และใช้มาตรการที่ครอบคลุม

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐกับประเทศอื่นๆนั้นดุเดือดขึ้น เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งรุนแรง นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งสำคัญ นักการเมืองของสหรัฐหลายรายก็ตั้งใจที่จะหันเหความสนใจของผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงที่สนใจเรื่องเศรษฐกิจถดถอยไปสู่เรื่องราวอื่นๆ

อู่ หมิงกัง ผู้อำนวยการแผนกการเงินระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัย China Foreign Affairs University กล่าวว่า การที่สหรัฐผ่านกฎหมายดังกล่าวย่อมสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐไม่ได้มีการให้ความสำคัญกับเรื่องการหาคะแนนนิยมจากประชาชนแต่อย่างใดในขณะที่การเลือกตั้งสภาคองเกรสกำลังใกล้เข้ามา

เสี่ยง เจิง ซึ่งเป็นสมาชิกของสถาบันบรู๊กกิ้งส์ด้วยนั้น กล่าวว่า นักการเมืองสหรัฐมีวิสัยทัศน์ที่ไม่กว้างไกล เมื่อพิจารณาจากกรณีการกดดันจีนหรือประเทศต่างๆให้ปรับสกุลเงินให้แข็งค่าขึ้น แต่ก็ละเลยสถานการณ์แวดล้อมที่เป็นจริงและผลประโยชน์ของประเทศนั้นๆ

"เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับปัญหาในระดับโครงสร้าง สหรัฐก็ควรจะแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง แต่การกดดันจีนและประเทศอื่นๆให้ลดค่าเงินนั้น ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง" นายอู่กล่าว

นายอู่ กล่าวต่อไปว่า ต้องไม่ลืมว่า ปริมาณการส่งออกสินค้าที่ผลิตในจีนโดยบริษัทของชาวอเมริกันไปยังสหรัฐนั้นมีปริมาณมหาศาลเพียงใด

ในการอภิปรายทั่วไปก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงในสภาผู้แทนฯเมื่อวานนี้นั้น สมาชิกสภาคองเกรสบางรายกล่าวว่า การรับรองกฎหมายดังกล่าวอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องภาวะไร้สมดุลทางการค้าของสหรัฐได้เลย

ส.ส.เจ้บ เฮนซาร์ลิง กล่าวว่า สหรัฐยังคงต้องเผชิญกับการฟื้นตัวที่ล่าช้าของเศรษฐกิจ ขณะที่การผ่านกฎหมายอาจจะไม่ได้ช่วยสร้างงาน แต่จะจุดชนวนสงครามการค้าขึ้นมาแทน ซึ่งนโยบายดังกล่าวถือว่าเป็นนโยบายที่ไม่ฉลาดเท่าใดนัก

ด้านส.ส.เควิน เบรดี เชื่อว่า การผ่านกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถช่วยให้สหรัฐบรรลุเป้าหมายได้ และยังจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเป็นเรื่องที่จำเป็น

นายอู่เชื่อว่า สหรัฐจำเป็นต้องยกระดับความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมของประเทศ และเปิดรับการลงทุนและนักลงทุนจากต่างประเทศมากกว่านี้ หากสหรัฐต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณการส่งออกให้ได้ถึง 2 เท่า

โอบามาได้เปิดตัวโครงการริ่เริ่มการส่งออกแห่งชาติขึ้นเมื่อเดือนมี.ค. เพื่อหนุดเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยให้ได้ พร้อมกับกำหนดเป้าหมายการเพิ่มการส่งออกให้ได้ถึง 2 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปี และสร้างงานให้ได้ถึง 2 ล้านตำแหน่ง

นายอู่กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการระยะยาว และไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ด้วยการผลักดันให้ประเทศต่างๆปรับค่าเงินให้แข็งค่าขึ้นและหันมาซื้อสินค้าของสหรัฐมากขึ้น เมื่อใครสักคนล้มป่วยลง คนๆนั้นจำเป็นต้องอดทนเพื่อที่จะฟื้นตัวจากโรคภัยไข้เจ็บ และต้องไม่โทษคนอื่นว่าเป็นต้นตอของความเจ็บป่วยของตนเอง

จีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่มีการขยายตัวรวดเร็วที่สุดของสหรัฐ ด้วยจำนวนประชากรถึง 1.3 พันล้านคน และเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใกล้ระดับตัวเลข 2 หลัก

เมื่อพิจารณาจากการกล่าวปราศรัยนโยบายต่อสภาคองเกรสเมื่อต้นเดือนนั้น นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระดับมหาศาลจากความสัมพันธ์กับจีน และการส่งออกสินค้าของสหรัฐไปยังจีนในปีนี้ก็ทะยานขึ้นถึง 36% จากระดับปี 2552

นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเชื่อว่า ทั้งสหรัฐและจีนควรจะใช้ความพยายามเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภาคี และเพิ่มความร่วมมือในหลายๆด้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้บริหารระดับนโยบายสหรัฐก็จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ไกลในเรื่องความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จีนได้ผลักดันให้สภาผู้แทนฯสหรัฐพิจารณาถึงความจำเป็นของความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐ และหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

ด้านนายเจียง หยู โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวว่า การดูแลและจัดการให้การพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพนั้นถือเป็นผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ

ก่อนหน้านี้ กลุ่มองค์กรธุรกิจและปศุสัตว์ชั้นนำของสหรัฐ 36 แห่ง ซึ่งรวมถึงหอการค้าสหรัฐในจีน ระบุว่า องค์กรไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว

ด้านธนาคารกลางจีนก็ได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ ก่อนที่สภาผู้แทนฯสหรัฐจะลงคะแนนเสียงชี้ว่า จีนควรจะปรับปรุงกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน เพื่อเพิ่มคววามยืดหยุ่นให้กับเงินหยวน

ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กฎหมายดังกล่าวซึ่งพุ่งเป้าไปที่เงินหยวนของจีนนั้น อาจจะไม่ได้รับการรับรองให้ออกบังคับใช้เป็นกฎหมาย เนื่องจากอนาคตของวุฒิสภาสหรัฐยังไม่มีความแน่นอน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ