นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้จัดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการลงนามความตกลงการเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 และร่างตารางข้อผูกพันการเปิดตลาดการค้าบริการชุดที่ 8 ของไทยในกรอบการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ลงนามในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนที่เวียดนามในเดือนต.ค.53
ขณะเดียวกันจะต้องนำเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณา ทั้งนี้ หากผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ และผู้นำอาเซียนลงนามร่วมกันแล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ตั้งแต่ปี 54 เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของการเปิดเสรีบริการอาเซียนในชุดที่ 8 นั้น สมาชิกอาเซียนจะอนุญาตให้นักลงทุนหรือนิติบุคคลสัญชาติอาเซียนสามารถมีสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจบริการในประเทศได้ไม่น้อยกว่า 70% ในสาขาเร่งรัดการเปิดเสรี ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ, สุขภาพ, การท่องเที่ยว, การขนส่งทางอากาศ และโลจิสติกส์ รวมทั้งไม่น้อยกว่า 51% หรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งในสาขาบริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก 4 สาขาดังกล่าว เช่น วิชาชีพการโฆษณา, ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี, การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์, ก่อสร้าง เป็นต้น พร้อมกับจะต้องยกเลิกข้อจำกัดการเข้าสู่ตลาดอื่นๆ ทั้งหมดด้วย
"ตั้งแต่ปี 38 อาเซียนเปิดเสรีภาคบริการแล้ว 7 ชุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเปิดเสรีที่ 8 ซึ่งการเปิดตลาดตั้งแต่ชุดที่ 1-7 ไทยมีข้อจำกัดให้นักลงทุนอาเซียนถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจในไทยได้ไม่เกิน 49% ในทุกสาขาบริการที่ไทยผูกพันในอาเซียน ส่งผลให้คนไทยยังถือหุ้นข้างมากอยู่ แต่การเปิดเสรีบริการชุดที่ 8 เป็นต้นไปจะเปิดเสรีเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะนักลงทุนไทยสามารถเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนได้ ขณะเดียวกันก็อาจได้รับผลกระทบจากนักลงทุนอาเซียนอื่นเข้ามาลงทุนในไทยด้วย" นางศรีรัตน์กล่าว