กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ว่า จีดีพีขยายตัว 1.7% ซึ่งมากกว่าที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัวเพียง 1.6% เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และภาคเอกชนได้ปรับเพิ่มสต็อกสินค้า
จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดการเงินคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.6% อย่างไรก็ตาม ยอดการนำเข้าสินค้าที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สกัดกั้นการขยายตัวของจีดีพี นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 2 ยังขยายตัวได้น้อยกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ถึง 3.7%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทางกระทรวงปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 มาจากการขยายตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค โดยทางกระทรวงได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคประจำไตรมาส 2 เป็นขยายตัว 2.2% จากเดิมที่ประเมินว่าขยายตัวเพียง 2.0%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดนำเข้าสินค้าในไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 33.5% ทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 26 ปี ขณะที่ยอดการส่งออกสินค้าขยับขึ้นเพียง 9.1% เท่านั้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีขั้นต้นประจำไตรมาส 3 ในวันที่ 29 ต.ค.นี้