ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐช่วยพยุงดอลลาร์ให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางไอร์แลนด์อัดฉีดเงินช่วยเหลือธนาคารแองโกล ไอริช แบงค์
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3622 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ (29 ก.ย.) ที่ 1.3628 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5716 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5786 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.23% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.490 เยน จากระดับของวันพุธ 83.680 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9818 ฟรังค์ จากระดับ 0.9765 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.38% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9648 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ 0.9685 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7333 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7372 ดอลลาร์สหรัฐ
กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยในระหว่างวันยูโรทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
แต่ยูโรอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางไอร์แลนด์ให้เงินช่วยเหลือธนาคารแองโกล ไอริช แบงค์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าการอัดฉีดเงินทุนในมาตรการช่วยเหลือภาคธนาคารจะส่งผลให้ไอร์แลนด์มียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มเป็น 32% ของตัวเลขจีดีพี จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในระดับ 11.75% ในปี 2553 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าข้อบังคับของสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกยูโรโซนควบคุมยอดเกินดุลการค้าให้ขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ของจีดีพี
สำนักงานแรงงานกลางเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนก.ย.ของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.6% ในเดือนส.ค. เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเยอรมนีได้ช่วยกระตุ้นตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย ส่วนประชาชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นคนว่างงานในเดือนก.ย.มีอยู่ทั้งสิ้น 3.031 ล้านคน ต่ำกว่าเดือนส.ค.อยู่ประมาณ 157,000 คน และต่ำกว่าเดือนก.ย.ปีที่แล้วประมาณ 315,000 คน
ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขจีดีพีขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี เป็นขยายตัว 1.7% จากที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัวเพียง 1.6% เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น และภาคเอกชนได้ปรับเพิ่มสต็อกสินค้า นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 2 ยังขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดการเงินคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.6%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ย. ลดลง 16,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 453,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 460,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวปานกลาง
นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค. รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนก.ย. และสถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.