นายเผิง ไฝ่-หนาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันตั้งเป้าใช้มาตรการป้องกันการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังจากที่ธนาคารได้ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.125% สู่ระดับ 1.50% เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้
การประกาศถึงความมุ่งมั่นในการสกัดกั้นกระแสเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขึ้นหลังจากที่ราคาบ้านในไต้หวันพุ่งทะยานขึ้นซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจุดชนวนให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดดังกล่าว
โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไต้หวันขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีด้วยอัตราการขยายตัวที่ระดับ 13.1% ส่งผลให้อัตราว่างงานลดลงและค่าแรงพุ่งสูงขึ้น โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยภาคการส่งออกทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า ธนาคารกลางจะดำเนินมาตรการสกัดความร้อนแรงในตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม
นายเผิงกล่าวว่า ธนาคารกลางจำเป็นต้องทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับมาอยู่ในระดับปกติ พร้อมเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการที่เหมาะสมด้านการปล่อยกู้โดยใช้ที่ดินเปล่าเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ราคาบ้านในกรุงไทเปพุ่งสูงขึ้น 7.5% หลังจากที่ทะยานขึ้นถึง 20% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ธนาคารกลางไต้หวันอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีก 25% ในการประชุมครั้งหน้าเพื่อควบคุมราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น