นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เผยช่วงสายวันนี้จะเดินทางไปศาลปกครองสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำวินิจฉัยคดีมาบตาพุดของศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนจะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินหรือไม่ขอเวลาพิจารณาอีก 2-3 วัน
"จะไปยื่นอุทธรณ์ตอน 10 โมงครึ่ง เพราะเป็นวันสุดท้ายแล้ว" นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
โดยคำร้องดังกล่าวจะยื่นอุทธรณ์ใน 3-4 ประเด็นที่ชี้ให้ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า หน่วยงานของรัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้, กระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลางไม่ชอบด้วยข้อบังคับของที่ประชุมใหญ่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุด ข้อที่ 62 ซึ่งห้ามนำพยานหลักฐานซึ่งปรากฎภายหลังจากศาลได้ยุติการแสวงหาข้อเท็จจริงมาเป็นองค์ประกอบในคดี โดยนำประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 31 ส.ค.53 เรื่องโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง 11 กิจการ มาใช้ในสำนวนคดี ขณะที่ศาลกำหนดวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.53 แล้ว
นอกจากนี้ พื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง และพื้นที่ใกล้เคียง ยังเป็นพื้นที่พิเศษตามประกาศเขตควบคุมมลพิษ แต่การลงทุนทั้ง 76 โครงการได้ยื่นขออนุญาตหลังรัฐธรรมนูญปี 50 ประกาศใช้ จึงต้องดำเนินการตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า หลังจากนี้จะพิจารณาอีกครั้งภายใน 2-3 วันว่าจะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินหรือไม่
ส่วนการชุมนุมวันที่สองของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกนั้น นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า คงเป็นการจัดกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการประกาศ 11 ประเภทกิจการรุนแรงเท่านั้น ไม่น่าที่จะมีเหตุการณ์รุนแรง