นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ในเดือน ก.ย.53 อยู่ที่ 108.49 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.0% จากเดือน ก.ย.52 แต่ลดลง 0.07% จากเดือน ส.ค.53 ขณะที่ CPI ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ย.53) ขยายตัว 3.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"CPI เดือนกันยายน 53 ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยมีสาเหตุสำคัญจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวสูงขึ้น 6.6% โดยได้รับผลมาจากสินค้าข้าว แป้ง ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้" นายยรรยง กล่าว
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน ก.ย.53 อยู่ที่ระดับ 103.72 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือน ก.ย.52 และเพิ่มขึ้น 0.04% จากเดือน ส.ค.53 ขณะที่ Core CPI ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 0.8%
"CPI ในเดือนกันยายนที่ขยายตัว 3.0% เป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสมกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ส่วนทั้งปีคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ในระดับ 3.0-3.5%" นายยรรยง กล่าว
สำหรับช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3.2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 53 จะอยู่ที่ 3.3-3.4% ตามกรอบที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.0-3.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกปี 54 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งนี้เป็นไปตามสมมุติฐานราคาน้ำมันในตลากโลกอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 31-33 บาท/ดอลลาร์ และรัฐบาลยังขยายเวลามาตรการลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนออกไปอีก
สำหรับดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือน ก.ย.53 อยู่ที่ 124.91 เพิ่มขึ้น 6.6% จากเดือน ก.ย.52 และเพิ่มขึ้น 0.27% จากเดือน ส.ค.53 ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 98.54 เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือน ก.ย.52 แต่ลดลง 0.27% จากเดือน ส.ค.53
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีของไทย ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวให้มีเสถียรภาพต้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการลดค่าครองชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล และการตรึงราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์