นายกฯ ยืนยันรัฐบาล-แบงก์ชาติไม่ขัดแย้งการกำหนดนโยบายดอกเบี้ย-เงินบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 1, 2010 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ไม่มีความขัดแย้งในการกำหนดนโยบายดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน เพราะมีความเข้าใจตรงกัน พร้อมยืนยันในนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการ และไม่มีการกำหนดเป้าหมายค่าเงินบาท

"ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้เข้าใจตรงกันหมด"นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ รมว.คลัง ออกมาส่งสัญญาณให้ ธปท.ตรึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เพิ่มแรงกดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่า

ทั้งนี้ นโยบายและการทำงานของ ธปท.ในขณะนี้ก็ได้มีการหารือกับรัฐบาลในเชิงนโยบายจนเกิดความเข้าใจที่ตรงกันในเรื่องค่าเงินบาท และมีการวิเคราะห์สาเหตุตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของปัจจัยชี้วัดหรือการวิเคราะห์ผลกระทบ รวมไปถึงหลักคิดในการจัดการก็ตรงกัน ซึ่งแนวทางตรงนี้ยังไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่มีเหตุใดที่ต้องกังวล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.มีหน้าที่ในการดูแลเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งถือเป็นภารกิจหลัก ส่วนความห่วงใยผลกระทบที่อาจมีต่อค่าเงินบาทหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ก็ได้มีการพูดคุยในกรอบของที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจอยู่แล้ว และนโยบายของธปท.ที่เดินอยู่ไม่ได้ขัดแย้งกับทางรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมามีผลกระทบกับตัวเลขส่งออก แต่ในแง่ของรายได้ผู้ส่งออกเมื่อแปลงเป็นเงินบาทอาจจะกระทบบ้าง ซึ่งจะไปหนักที่ผู้ส่งออกที่ไม่ได้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ก็คงต้องไปดูเป็นการเฉพาะเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนที่กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งทางกระทรวงการคลังพิจารณาอยู่ในเรื่องของการสนับสนุนสินเชื่อและการอำนวยความสะดวกในการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนค่าเงินบาทจะแข็งค่าไปถึง 28 บาท/ดอลลาร์ตามที่มีผู้คาดการณ์ไว้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ เพราะเวลาอะไรมันขึ้นคนมักจะมองขึ้นไปเรื่อย ๆ เวลาจะลงก็มักจะมองว่าลงไปเรื่อย ๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น นโยบายหลักในการดูแลคือระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดการ และ ไม่ได้กำหนดเป้าหมายค่าเงินบาท

"เราไม่ได้บอกว่าเราจะเข้าไปแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ที่ไหนอย่างไร นโยบายแทรกแซงจะทำเพื่อการลดความผันผวนเป็นหลัก"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับกรณีที่นายบัณฑิต นิจถาวร ประกาศลาออกจากรองผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงิน ธปท.เพื่อไปสมัครชิงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของอาเซียน+3 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเสียดาย เพราะส่วนตัวก็รู้จักกัน แต่ก็ถือเป็นการตัดสินใจของตัวท่าน องค์กรก็ต้องเดินหน้าต่อในการสรรหาผู้ที่มาดำรงตำแหน่งแทน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่มีสาเหตุขัดแย้งกับผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เพราะนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ยังไม่ได้เริ่มงาน แต่น่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัวของนายบัณฑิตเองมากกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ