ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยในรายงาน "Asia Bond Monitor" วันนี้ว่า ตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชียตะวันออก ขยายตัวขึ้น 18.8% ในไตรมาส 2 ปีนี้ และพันธบัตรที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนมีมูลค่าทั้งสิ้น 4.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยนั้น สามารถดึงดูดเงินทุนไหลเข้าได้เป็นจำนวนมาก โดยนายไอแวน อาซิส ผู้อำนวยการสำนักงาน Regional Economic Integration ของเอดีบีกล่าวว่า ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าในตลาดท้องถิ่น
รายงานระบุว่า ความแข็งแกร่งของเวียดนาม จีน อินโดนเซีย และฟิลิปปินส์ ช่วยหนุนการเติบโตของตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่น โดยธุรกิจการเงินและสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นกลุ่มเอกชนที่ออกพันธบัตรอย่างคึกคักที่สุดในช่วงไตรมาส 2
ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของจีนมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.85 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดพันธบัตรรัฐบาลของจีนขยายตัว 17% และตลาดพันธบัตรเอกชนของจีนขยายตัว 52.7%
ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้ใช้นโยบายต่างๆเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดภายในประเทศ รวมทั้งขยายขอบข่ายการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยจีนได้อนุญาตให้สถาบันการเงินต่างชาติสามารถเข้ามาทำธุรกรรมในตลาดพันธบัตรผ่านระบบอินเตอร์แบงค์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน