ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ เหตุวิตกเสถียรภาพการเงินแบงค์พาณิชย์ยุโรป

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 5, 2010 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินของธนาคารในกลุ่มยูโรโซน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของไอร์แลนด์และกรีซ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโร

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.73% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3689 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (1 ต.ค.) ที่ระดับ 1.3789 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5831 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5815 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.410 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 83.190 เยน แต่ดิ่งลง 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9721 ฟรังค์ จากระดับ 0.9734 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9678 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9716 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7409 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7442 ดอลลาร์สหรัฐ

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินของธนาคารในกลุ่มยูโรโซนส่งผลให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโร โดยเมื่อวานนี้คณะกรรมการของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า ธนาคารยูบีเอส เอเจี และธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ต้องเพิ่มทุนตามเกณฑ์บาเซิล 3 (Basel III) ที่ประกาศโดยคณะกรรมการบาเซิลด้านการกำกับดูแลธนาคารเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังถูกกดดันหลังจากธนาคารกลางไอร์แลนด์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะชะงักงันในปีนี้ ขณะที่รัฐบาลกรีซคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอาจจะหดตัว 2.6% ในปีหน้า หลังจากทรุดตัวลง 4.0% ในปีนี้

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.3% แตะระดับ 82.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 3.0%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนส.ค.หดตัวลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 4.089 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนก.ย. วันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย ธนาคารกลางญี่ปุ่น การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G20 และการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ