นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก, นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก พร้อมตัวแทนจำนวนหนึ่ง ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ขอเพิกถอนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เรื่องประเภทโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง 11 ประเภท เนื่องจากเห็นว่าการออกประกาศกิจการรุนแรง ขัดมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญปี 2550
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ยังได้ยื่นฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ , รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,คณะรัฐมนตรี , และนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่มีส่วนในการออกประกาศดังกล่าว ทั้งที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ จนได้ข้อสรุปประเภทกิจการรุนแรงควรมี 18 ประเภทโครงการ โดยมีการตัดออก 7 ประเภทกิจการ จนเหลือ 11 ประเภท ซึ่งมีการปรับขนาดโครงการใหญ่ขึ้น เช่น โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ เพิ่มขนาดกำลังการผลิต จาก 1,100 เมกะวัตต์ เป็น 3,000 เมกะวัตต์ โดยไม่มีเหตุผลรองรับ และทางเครือข่ายฯ ได้มีการยื่นเรื่องให้รัฐบาลทบทวน แต่กลับถูกเพิกเฉย จึงต้องดำเนินการฟ้องร้อง โดยจะต้องต่อสู้ให้ถึงกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ทบทวนบทบาทของตัวเอง เนื่องจากนายอานันท์ ไม่ทำตามเสียงส่วนใหญ่ คัดค้านการออกประกาศกิจการรุนแรงของรัฐบาล แต่กลับมีท่าทีเห็นด้วยกับมติดังกล่าว จึงตั้งข้อสังเกตว่า นายอานันท์ และรัฐบาล อาจมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ด้านนายสุทธิ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล ในเรื่องการจัดเวทีดีเบต ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ตามที่เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กำหนดเงื่อนเวลาไว้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องรอให้นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาจากประเทศเบลเยียมก่อน โดยการพูดคุยหาข้อยุติเชิงนโยบายร่วมกัน เป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้ แต่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องดำเนินการต่อไป ยืนยัน สิ่งที่ดำเนินการอยู่ เป็นการเรียกร้องประโยชน์ของประชาชน ซึ่งตรงตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ