World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2553

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 5, 2010 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.3% แตะระดับ 82.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 3.0%

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนส.ค.หดตัวลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 4.089 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.

-- ผลการสำรวจล่าสุดของออสเตรเลียน อินดัสตรี (AI) ร่วมกับธนาคารคอมมอนเวลธ์ พบว่า กิจกรรมในภาคบริการของออสเตรเลียหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนกันยายน เนื่องจากผู้บริโภคและธุรกิจยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย

-- สำนักงานจัดหางานของสเปน เปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานในสเปนได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 4 ล้านคนอีกรอบในเดือนกันยายน

-- เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโร้ดไอร์แลนด์ของสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะได้ประโยชน์หากเฟดตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีกครั้ง ซึ่งการแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า คณะกรรมการเฟดจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้

-- จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษประกาศแผนควบคุมค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมสำหรับชาวอังกฤษ พร้อมเดินหน้าผลักดันการสร้างรัฐสวัสดิการ (welfare state) อย่างเป็นธรรมในประเทศ

-- สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน โดยตัวเลขเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 3.5% จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 4% เมื่อเดือนส.ค. ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงนี้ ถือเป็นการเปิดทางให้ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.5% ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ที่คาดว่า ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 4.75% ซึ่งถือเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมมาเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว ส่วนเงินเฟ้อของประเทศก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวขึ้นก็ตาม

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียมีอัตราการเติบโตเพียง 0.3% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับยอดเกินดุลการค้าของประเทศที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าเป้าหมาย

-- คณะกรรมการกำกับดูแลตราสารหนี้ของเกาหลีใต้ (KSD) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการออกตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนเกาหลีใต้ในไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ระดับ 28.87 ล้านล้านวอน (2.56 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 16.8% จากไตรมาส 2 ที่ระดับ 34.7 ล้านล้านวอน (3.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น

-- สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งชาติของออสเตรเลีย (FCAI) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกันยายน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ

-- ธนาคารกลางไอร์แลนด์ได้ปรับลดคาดการณ์การอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 0.2% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาลที่คาดไว้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัว 1%

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0 - 0.1% พร้อมกับตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและสิ้นสุดลงในวันนี้ (5 ต.ค.) พร้อมพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งกองทุนวงเงินรวม 35 ล้านล้านเยน เพื่อซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาล ตราสารเชิงพาณิชย์ และหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน

-- อินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ผลผลิตถ่านหินในปีหน้าจะอยู่ที่ 326.65 ล้านตัน ซึ่งพุ่งสูงขึ้น 24.45% จากระดับเป้าหมายในปีนี้

-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือที่ Aa2 ของไอร์แลนด์ พร้อมระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์มีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดลง

-- นายโยชิโตะ เซนโงกุ หัวหน้าเลขาธิการครม.ญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นขานรับการตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ ซึ่งการตัดสินใจของบีโอเจนั้นสอดคล้องกับการดำเนินการในการรับมือกับภาวะเงินฝืดของรัฐบาล

-- เทสโก้ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ รายงานผลประกอบการประจำครึ่งปีแรก มีกำไรเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของตลาดค้าปลีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งดีมานด์ที่แข็งแกร่งในตลาดเอเชีย

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.5% ในการประชุมวันนี้ (5 ต.ค.) ขณะเดียวกันธนาคารกลางได้มุ่งเน้นเรื่องการควบคุมกระแสเงินทุนไหลเข้าที่มีอยู่จำนวนมากในขณะนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ