ลาร์ส แฮนเซน ประธานบริหารประจำภูมิภาคยุโรปของ โนโวไซม์ (Novozymes) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมชีวภาพรายใหญ่ของยุโรป กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัว ว่า โนโวไซม์สได้ตัดสินใจตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ของจีน"
โดยโนโวไซม์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเดนมาร์กและเป็นผู้นำระดับโลกในนวัตกรรมชีวภาพ กำลังพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นที่สองจากกากผลผลิตทางการเกษตร ร่วมกับบริษัท COFCO ผู้ส่งออกและนำเข้าน้ำมันและอาหารรายใหญ่สุดของจีน และซิโนเปค บริษัทน้ำมันและพลังงานยักษ์ใหญ่ของจีน
แฮนเซน กล่าวว่า "เราอยู่ในตลาดจีนมาเป็นเวลานานมาก"
โนโวไซม์ ก่อตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในจีนในปี2540 ที่กรุงปักกิ่ง และปัจจุบันประเทศจีนได้กลายเป็นประเทศพันธมิตรรายใหญ่อันดับที่สองในด้านยอดขายของบริษัทรองจากสหรัฐ
"เราต้องสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจของเราครอบคลุมในตลาดจีน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเราเชื่อมั่นในประเทศจีนและตลาดจีน และเราให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับพันธมิตรและลูกค้าในประเทศจีนตั้งแต่เริ่มแรก" แฮนเซนกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ธุรกิจของของบริษัทครอบคลุมตั้งแต่ การวิจัยและพัฒนาไปจนถึงการตลาด โดยโนโวไซม์ใช้ระยะเวลายาวนานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดจีน
นอกจากนี้ แฮนเซน กล่าวเสริมว่า โนโวไซม์ให้ความสำคัญอย่างมากกับทรัพย์สินทางปัญญาและได้ลงทุนจำนวนมหาศาลในการวิจัย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่เคยประสบกับปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ร้ายแรง
"เรามีมุมมองต่อจีนที่ไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ เราจดสิทธิบัตรภายใต้กฎหมายของจีนและใช้สิทธิบัตรในจีนเหมือนกับการดำเนินงานในที่อื่น" แฮนเซนกล่าว
ทั้งนี้ แฮนเซนเชื่อว่า ถึงแม้ว่าเพื้อเพลิงชีวภาพที่ก้าวหน้าจะยังไม่สามารถทำการตลาดได้ดีนักในประเทศจีน แต่ทางรัฐบาลกลางของจีนและรัฐบาลท้องถิ่นกำลังให้ความสนใจต่อการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งแฮนเซนกล่าวว่า การลงทุนในเชื้อเพลิงชีวภาพจะเป็นสร้างงานเพิ่มในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ทำการเกษตร รวมทั้งลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและการพัตนาภาคการขนส่งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น