ดีเอชแอล ผู้นำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมลอจิสติกส์เผย ลอจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยขับเคลื่อนการขยายตัว เพิ่มความมั่งคั่ง และมาตรฐานความเป็นอยู่ พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลลดภาระด้านการดำเนินการ ปรับปรุงงานด้านศุลกากรและความปลอดภัย รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนด้านสาธารณูปโภคเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโต
โดยดีเอชแอลระบุถึงปัจจัยเกื้อหนุนหลัก 3 ประการที่จะช่วยให้กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพลอจิสติกส์ของตนเอง และลดต้นทุนการซื้อขายได้มากถึง 30% ภายในปี 2563 โดยบริษัทเรียกร้องให้รัฐบาล ผู้ประกอบการเดินเรือ และบริษัทลอจิสติกส์ มาร่วมมือกันลดงานด้านเอกสารและธุรการ ปฏิรูปงานด้านศุลกากรและความปลอดภัย และลงทุนในสาธารณูปโภคเพื่อรักษาข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของประเทศในกลุ่มเอเปค
เฮร์มันน์ อูเดอ ซีอีโอของดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง (DHL Global Forwarding) กล่าวต่อสื่อมวลชนในกรุงโตเกียวก่อนการประชุม APEC CEO Summit 2010 ว่า “ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา การค้าทั่วโลกเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซนต์ของจีดีพี ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 1 ใน 3 เป็นกว่า 50% ทำให้การค้าระหว่างประเทศกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมลอจิสติกส์ที่ไม่มีประสิทธิภาพในหลายประเทศยังคงขัดขวางการเติบโตด้านการค้า ยกตัวอย่างเช่น ประเทศในกลุ่ม BRIC (บราซิล,รัสเซีย, อินเดีย และจีน) มีงานเอกสารด้านการส่งออก/นำเข้ามากเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับสิงคโปร์หรือเยอรมนี ด้วยเหตุนี้ งานเอกสารอาจเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองเวลามากที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือ อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต้องถูกเก็บอยู่ในคลังสินค้าเป็นเวลานานกว่าระยะเวลาในการขนส่ง
“การลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ลงให้ได้ 30% ถือเป็นเป้าหมายที่อยู่สูง แต่รัฐบาล บริษัทเดินเรือ และผู้ให้บริการการขนส่งอย่าง ดีเอชแอล สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าวร่วมกันได้ และหากประเทศต่างๆ ยังต้องการที่จะประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ ก็จะต้องมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ หากหน่วยงานกำกับดูแลลดระเบียบขั้นตอนทางราชการและมีขั้นตอนที่สอดคล้องกันมากขึ้น บริษัทลอจิสติกส์ก็จะทำงานได้อย่างต่อเนื่องในการลดต้นทุนและปรับปรุงระยะเวลาในการขนส่ง และบริษัทขนส่งก็จะรวมกลุ่มเป็นพันธมิตกับผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ในระดับที่ลึกขึ้น อัตราการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ก็จะดำเนินต่อไป " อูเดอกล่าวทิ้งท้าย