ฮิวเล็ตต์-แพ็คการ์ด (เอชพี) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 4 ของปีภาษี 2553 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้แตะ 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน
ทั้งนี้ สถิติดังดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ทั้งในส่วนของยอดขายและกำไรสุทธิ
รายงานของฮิวเล็ตต์-แพ็คการ์ด ระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.33 ดอลลาร์ ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เพียง 1.27 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากยอดขายทั้งหมด 3.275 หมื่นล้านดอลลาร์
ลีโอ อะโพธีเคอร์ ซีอีโอของฮิวเล็ตต์-แพ็คการ์ด กล่าวในแถลงการณ์ของบริษัทว่า "เอชพี ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารอีกครั้งโดยอาศัยจุดแข็งทางการตลาดและความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี"
นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเอชพีจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนว่า เอชพีจะก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดไอที
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อะโพธีเคอร์ พึ่งเข้าดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารของเอชพีในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่าน แทนมาร์ค ฮูร์ด ที่ลาออกในเดือนสิงหาคมหลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนในข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศต่ออดีตพนักงานของบริษัท