สหรัฐเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. ขณะยอดขายโตโยต้าร่วง

ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถโตโยต้าในตลาดสหรัฐลดลง 3.3% ในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ของบริษัทสหรัฐและเอเชียเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดโดยรวมของตลาดเพิ่มขึ้นด้วย

รายงานของออโต้ดาต้า ระบุว่า โตโยต้ามียอดขายทั้งสิ้น 129,317 คัน ในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก 17.9% ในปีที่แล้ว เหลือ 14.8% ในปีนี้ ส่วนขอดขายรถยนต์ทั้งหมดในตลาดสหรัฐเพิ่มขึ้น 16.9% แตะ 873,323 คันในเดือนพฤศจิกายน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ ยอดขายของโตโยต้า ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น ยังได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนรถยนต์จำนวนมากในตลาดทั่วโลก ถึงแม้จะยังครองตำแหน่งยอดขายอันดับ 3 ในตลาดสหรัฐรองจากบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส และ บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ โดยเจเนอรัล มอเตอร์ส มียอดขายทั้งหมด 168,670 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% และมีส่วนแบ่งการตลาด 19.3% ฟอร์ด มอเตอร์ มียอดขาย 146,956 คัน เพิ่มขึ้น 24.3% และมีส่วนแบ่งการตลาด 16.8%

ด้านไครส์เลอร์ แอลแอลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบิ๊กทรีของสหรัฐ มียอดขายทั้งหมด 74,152 คัน เพิ่มขึ้น 16.7% ส่งผลให้กลายเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 5 ในตลาดสหรัฐ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 8.5% ตามหลัง บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งมียอดขาย 89,617 คัน เพิ่มขึ้น 21.1% และมีส่วนแบ่งการตลาด 10.3%

สำหรับยอดขายรวมของกลุ่มบริษัทบิ๊กทรีของสหรัฐ มีจำนวนทั้งสิ้น 389,778 คัน เพิ่มขึ้น 17.4% และมีส่วนแบ่งตลาด 44.6% ของตลาดรถยนต์สหรัฐในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 44.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

ส่วนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่นๆ นิสสัน มอเตอร์ มียอดขายทั้งสิ้น 71,366 เพิ่มขึ้น 26.8% ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรี ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ ซูบารุ มียอดขาย 20,792 คัน เพิ่มขึ้น 22.4% มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป 15,304 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% มิตซูบิชิ มอเตอร์ คอร์ป 4,306 คัน เพิ่มขึ้น 47.2% และ ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป 2,332 คัน เพิ่มขึ้น 51.4% สำนักข่าวเกียวโดรายงาน